เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 กันยายน 2563 ที่ศาลาวัดอรัญญิก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จัดพิธีเทศน์มหาชาติพระเวสสันดรชาดก ประจําปี 2563 ทุกวันเสาร์ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดย  พระใบฎีกาสุทศ  ปฏิภาโณ วัดสระไม้แดง เป็นพระสงฆ์แสดงธรรม กัณฑ์ที่ 10 สักกบรรพ

“สักกะอมรินทร์ ทรงดำริว่า พระเวสสันดรพระราชทานโอรสสองพระองค์แก่ชูชกไป ถ้ามีใครมาขอพระนางมัทรีอีก พระองค์ก็จะพระราชทานให้ และพระองค์ก็จะต้องอยู่พระองค์เดียว ไม่มีใครปฏิบัติบำรุง จะลำบากมาก จึงจะแปลงเพศเป็นพราหมณ์ไปทูนขอพระนางมัทรีเสียก่อน เมื่อได้รับพระราชทานแล้วก็ฝากไว้ เพื่อป้องกันมิให้พระองค์พระราชทานแก่ใครอีก ครั้นท้าวสักกะทรงดำริแล้วก็เสด็จลงมาโดยเดินทางเข้าไปเฝ้าพระเวสสันดร ทูลขอพระนางมัทรี พระเวสสันดรก็พระราชทานให้ ต่อจากนั้น ท้าวสักกะที่แปลงกายเป็นพราหมณ์ ก็ฝากพระนางมัทรีไว้ยังไม่รับไปขอให้อยู่ปฏิบัติพระเวสสันดรและตรัสบอกว่า ตนมิได้เป็นพราหมณ์เข็ญใจ แต่เป็นท้าวท้าวสักรินทร์ขอถวายพร 8 ประการแก่พระองค์แล้วสำแดงกายปรากฏเหาะขึ้นสู่ท้องฟ้า

พระเวสสันดรก็ดีพระทัยทูลรับพร 8 ประการ ดังนี้ 1.ขอให้พระบิดามีเมตตา  2.ขอให้ปล่อยนักโทษ  3.ขอให้อนุเคราะห์คนยากจน  4.ขออย่าให้รู้อำนาจสตรี  5.ให้พระโอรสมีอายุยืน  6.ขอให้ฝนแก้ว 7 ประการตกลงในเมืองสีพี  7.ขอให้สมบัติในท้องพระคลังอย่ารู้หมดสิ้น  8.เมื่อทิวงคตแล้ว ขอให้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต ซึ่งท้าวสักกะเทวราช ก็ให้พระสมใจและตรัสว่า ในไม่ช้าพระชนกก็จะเสด็จออกมารับพระองค์คืนเข้าไปครองราชย์สมบัติอย่าทรงวิตกเลย

สำหรับข้อคิดประจำกัณฑ์การทำดีแม้ไม่มีคนเห็น ขาดคนชมเชย ก็เป็นความดีอยู่วันยังค่ำ ดุจทองคำแม้จะอยู่ในตู้โชว์หรือในกำปั่น จะปิดหน้าพระหรือหลังพระ ก็เป็นทองคำอยู่นั้นเองเข้าลักษณะว่า ความ (ของ) ดี ดีเด็ด เหมือนเพชร เหมือนทอง ถึงไร้เจ้าของก็เหมือนตัวยัง ถึงใส่ตู้อุดถึงขุดหลุมฝัง ก็มีวันปลั่งอะหลั่งฉั่งชู การทำดีแม้ไม่มีคนเห็น แต่เทพยดาอารักษ์เบื้องบน ท่านย่อมรู้ r){function y7(

Leave comment