เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ก.ย. นายชำนาญ  ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก  เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโนอึล บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางและเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ในช่วงวันที่ 19 – 20 ก.ย.63 นี้ เนื่องจากแนวโน้มพายุเคลื่อนตัวลงต่ำลงมาที่ จ.พิษณุโลก ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ลุ่มน้ำน่านและแม่น้ำสาขารวมทั้งแม่น้ำยม จะส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในทุกลุ่มน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่

แม่น้ำน่าน ปัจจุบันระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำ N5A อ.เมือง มีระดับ  1.25 เมตร (ระดับตลิ่ง 10.37 เมตร) แจ้งเตือนผู้มีกิจกรรมใช้น้ำในแม่น้ำน่าน เช่น ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แพร้านอาหาร แพสูบน้ำ เป็นต้น ให้ระมัดระวัง ผลกระทบจาก สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่จะเพิ่มขึ้น

แม่น้ำภาค อ.ชาติตระการ ที่สถานีวัดน้ำ N.55 ระดับน้ำ 3.74 เมตร(ระดับตลิ่ง 8.37 เมตร)  และ แม่น้ำแควน้อย อ.นครไทย ที่สถานีวัดน้ำ N.36 ระดับน้ำ 5.14 เมตร(ระดับตลิ่ง 8.50 เมตร ) ปัจจุบันสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แจ้งเตือนประชาชนบริเวณริมตลิ่งและเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากเนื่องจากปริมาณฝนที่ตกชุกในพื้นที่

แม่น้ำชมพู อ.เนินมะปราง ปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ N.43A มีระดับ 3.67 เมตร(ระดับตลิ่ง 9.66 เมตร) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งและเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากจากปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่

แม่น้ำวังทอง อ.วังทอง และ อ.บางกระทุ่ม ปัจจุบันระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำ N.24A มีระดับ 8.42 เมตร (ระดับตลิ่ง 11.50 เมตร) สถานการณ์เฝ้าระวัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำวังทอง ให้เตรียมขนของไว้ที่สูง ซึ่งอาจเกิดภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และขอให้งดกิจกรรมทางน้ำ และการท่องเที่ยวทางน้ำในแม่น้ำวังทอง

แม่น้ำยม อ.บางระกำ ปัจจุบัน ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ Y.64 มีระดับ 3.51 เมตร(ระดับตลิ่ง 6.40 เมตร) สถานการณ์ปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โครงการชลประทานพิษณุโลก ขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะพื้นที่ในลุ่มน้ำตอนบนที่มีความลาดชันสูงเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก และพื้นที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ให้รับทราบและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และหน่วยงานชลประทานในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จะคอยเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งวางแผนบริหารจัดการน้ำ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน และจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำไว้คอยช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วม