ติดตามและจัดทำแผนฯ ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน

รองอธิบดีกรมควบคุมสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อติดตามและจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติ ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนครั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2563 นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อติดตามและจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติ ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนครั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก ที่ห้องวังทอง โรงแรมดิอิมพีเรียลโฮเทล แอนด์คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์พิษณุโลก โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน

โดยแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1 พ. ศ. 2562 ถึง 2565 เกิดขึ้นจากความริเริ่มของรัฐบาล ในการตระหนักถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน สืบเนื่องจากการประกอบธุรกิจ รัฐบาล จึงมีความพยายามในการแก้ปัญหาดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปประธรรม เชื่อมโยงนโยบาย กฎหมาย กฎ ระเบียบ และมาตรการต่าง ๆ ในประเทศ พันธกรณีระหว่างประเทศ กับหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ทั้งในมิติการกำหนดหน้าที่ของรัฐในการคุ้มครองประชาชน กำหนดความคาดหวังต่อภาคธุรกิจ ให้ประกอบธุรกิจด้วยความเคารพสิทธิมนุษยชน และกำหนดหน้าที่ของภาครัฐและภาคธุรกิจในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากการประกอบธุรกิจ ซึ่งเป็น 3 หลักการสำคัญตามกรอบแนวทางหลักการ UNGPs

กระทรวงยุติธรรมโดยกรมควบคุมสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะหน่วยงานหลักที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับมนุษยชน ได้เริ่มดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 โดยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม ด้วยความมุ่งหวังให้เป็นกรอบแนวทางพื้นฐานในการปฏิบัติงานให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน บรรเทาและแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเป็นผลจากการประกอบธุรกิจ ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมสัมมนาหารือร่วมกับทุกภาคส่วน ควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับหลักการ UNGPs อย่างต่อเนื่อง

เมื่อปี 2561 คณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน มาเยือนประเทศไทย จึงได้มีโอกาสหารือร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งคณะทำงานสหประชาชาติ ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสถานการณ์ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ และการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด กระทรวงยุติธรรม โดยกรมควบคุมสิทธิและเสรีภาพ มองว่า กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วน เพื่อให้แผนปฏิบัติการเป็นสิ่งที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง สอดคล้องกับบริบทของไทย และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
