พ่อเมืองยโสธรคนใหม่มอบนโยบายและรับฟังปัญหา

ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เน้นย้ำให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน คลายทุกข์ให้ชาวบ้านพร้อมผลักดันส่งเสริมงานเก่าตามแผนพัฒนาจังหวัด สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน โดยมอบนโยบายและรับฟังปัญหาพื้นที่ อ.เมือง หลังเข้ารับตำแหน่งพ่อเมืองคนใหม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ต.ค. นายชลธี ยังตรง ผวจ.ยโสธร พบปะและมอบนโยบายในการทำงานแก่หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่อำเภอเมืองยโสธร ที่หอประชุมอำเภอเมืองยโสธร พร้อมกับ นายสุวัฒน์ เข็มเพชร ปลัดจังหวัดยโสธร นายสมยศ นามพุทธา ท้องถิ่นจังหวัดยโสธร นายพนม สิงห์สาย พัฒนาการจังหวัดยโสธร นางสาวเกษมนีย์ นาจาน คลังจังหวัดยโสธร โดยมี นายอภิรัตน์ ป้องกัน นายอำเภอเมืองยโสธร นำหัวหน้าส่วนระดับอำเภอ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ร่วมต้อนรับและรับมอบนโยบายในการทำงาน

นายชลธี ผวจ.ยโสธร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมาแนะนำตัวและทำความรู้จักพร้อมพูดคุยแนวทางการในการทำงาน นอกจากนี้ยังมารับฟังข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นของผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ว่ามีปัญหาอะไรในการทำงานอยากให้แก้ไขปัญหาในส่วนใด ซึ่งหากสามารถแก้ไขได้ก็จะได้สั่งการ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว หากปัญหาเกินความรับผิดชอบก็จะได้ทำเรื่องเสนอไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป สำหรับแนวทางในการทำงานจะยึดหลักการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก การปกป้องสถาบัน การดำเนินงานตามโครงการจิตอาสาพระราชทาน จิตอาสาภัยพิบัติ การยึดหลักตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การแก้ปัญหายาเสพติด เป็นต้น

โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการทำงานให้สอดคล้องกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงมีประสิทธิภาพ สำหรับในส่วนของนโยบายจังหวัดที่ได้มีการวางไว้ดีอยู่แล้ว คือเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ วิถียโสธร ก็จะได้มีการพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป จะต้องมีการพัฒนาเรื่องเกษตรอินทรีย์ให้ครบวงจร ส่งเสริมต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาสินค้าโอท๊อป ต่อยอดเรื่องการผลิต การตลาด ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ จ.ยโสธร เป็นเมืองวิถีอีสาน จะพัฒนาต่อยอดในการสืบสานประเพณี ฮีต 12 คอง 14 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การส่งเสริมโครงการ โคก หนอง นา เพื่อสร้างเศรษฐกิจความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว รวมไปถึงอาจพัฒนาต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปในตัว นอกจากนี้จะต้องมีการพัฒนา ยกระดับกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มสตรีให้มีความเข็มแข็ง เป็นต้น

“ที่สำคัญ การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มาร้องเรียนผ่านที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและจังหวัด ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนตามขั้นตอนอย่างรวดเร็ว ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้เลยในพื้นที่ ก็บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ หากปัญหาที่เกินความรับผิดชอบก็ดำเนินการนำเสนอปัญหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร็วโดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอจะต้องเป็นศูนย์ดำรงธรรมปันสุข คลายทุกข์ให้ชาวบ้าน ซึ่งต้นตอปัญหาของชาวที่มาร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม สามารถนำมารวบรวม วิเคราะห์ เพื่อกำหนดเข้าเป็นแผนในการพัฒนาจังหวัดต่อไปได้อีกด้วย”

ทั้งนี้ ผวจ.ยโสธรได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ถึงแม้ไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่ใช่คนอีสาน แต่ตั้งใจมาเพื่อพัฒนาจังหวัดยโสธร โดยยึดการทำงานตามหลักธรรมมาภิบาล ทำงานด้วยความโปร่งใส ปฏิบัติตามข้อระเบียบของกฎหมาย หากมีใครมาแอบอ้างชื่อผู้ว่าฯ เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ให้แจ้งผู้ว่าฯ ได้ทันที” และฝากถึงประชาชนทุกท่าน อย่าประมาทในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 ถึงแม้ประเทศเราสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็อย่าประมาท การ์ดอย่าตก ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างทางสังคม ช่วยกันสอดส่องดูแลและเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ฝากทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำงานเพื่อพัฒนา จ.ยโสธร ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคง อันจะนำมาซึ่งความกินดี อยู่ดี มีความสุข ของประชาชนชาวจังหวัดยโสธร