เริ่มขึ้นเขาช้างล้วงกันแล้ว ชาวนครไทยนำธงที่ทอกันเองขึ้นไปปักบนยอดเขาฉันเพล เขาย่านไฮ และเขาช้างล้วง ในงานประเพณีปักธงชัยประจำปี 2563

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเขาช้างล้วง ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก นายรณชัย  จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก ร่วมกับ นายนิสิต  สวัสดิเทพ นายอำเภอนครไทย เป็นประธานประกอบพิธีแห่ธงขึ้นเขาช้างล้วง ในงานประเพณีปักธงชัยอำเภอนครไทย ประจำปี 2563 ทั้งนี้เพื่อนำธงทั้ง 3 ผืนขึ้นไปปักบนยอดเขา 3 ยอด คือ ยอดเขาฉันเพล ยอดเขาย่านไฮ และยอดเขาช้างล้วง

โดยมี พล.ต.ต.ธวัช  วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน นักเรียน นักศึกษาในอำเภอนครไทย จ.พิษณุโลก ร่วมพิธีและเดินขึ้นเขาช้างล้วงด้วย เพื่อระลึกถึงพ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยางในอดีต ซึ่งกาลต่อมาคือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระปฐมบรมกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย เป็นการรำลึกถึงชัยชนะของพ่อขุนบางกลางท่าวที่มีชัยชนะศึก และเป็นความเชื่อของชาวบ้านที่เชื่อกันว่าการปักธง จะทำให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข กินดีอยู่ดี ถ้าปีใดไม่ไปปักธงจะทำให้เกิดภัยพิบัติหรือเภทภัยต่าง ๆ ที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหรือเสียชีวิตได้

ในการนำธงขึ้นไปปักบนยอดเขาช้างล้วง ทุกปี ชาวอำเภอนครไทยจะร่วมกันถักทอผืนธงสีขาว ขนาดใหญ่ 3 ผืน ก่อนจะพร้อมใจกันแห่แหนนำขึ้นไปปักบนยอดเขาทั้ง 3 ยอด ซึ่งปีนี้มีพิธีเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่บริเวณทางขึ้นเขาช้างล้วง ก่อนที่ นายรณชัย  จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก และ นายนิสิต  สวัสดิเทพ นายอำเภอนครไทย จะเดินนำขบวนขึ้นไปบนยอดเขาช้างล้วงตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยทุกคนมีการนำเสบียงอาหารติดตัวกันไปรับประทานด้วย เนื่องจากต้องใช้เวลาอยู่บนเขาเป็นเวลานาน เพราะต้องการประกอบพิธีกรรมในแต่ละจุดทั้ง ยอดเขาฉันเพล ยอดเขาย่านไฮ และยอดเขาช้างล้วง

สำหรับ ประเพณีปักธงชัย เป็นประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญของ อ.นครไทย ประเพณีหนึ่ง ที่ได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากชาว อ.นครไทย ส่วนใหญ่มีความเชื่อ และยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นอย่างมาก ประเพณีปักธงชัยเป็นประเพณีที่ชาวนครไทยได้จัดทำขึ้น ในวันที่ 14 -15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมของชุมชน ชาวนครไทยในอดีตที่ประกอบด้วย ชาวบ้านวัดหัวร้อง บ้านในเมือง บ้านวัดเหนือ บ้านหนองลาน และหมู่บ้านใกล้เคียงจะนำธงที่ชาวบ้านร่วมกันทอไปปักที่เขาช้างล้วง ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ทอดตัวขนานไปกับถนนสายนครไทย – ชาติตระการ ห่างจากตัวอำเภอนครไทยไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นประจำทุกปี

โดยชาวนครไทยส่วนใหญ่ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการนำธงไปปักบนยอดเขาช้างล้วงและความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีปักธง ที่พอสรุปได้ดังนี้ เชื่อว่าการปักธงจะทำให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข กินดีอยู่ดี โดยมีความเชื่อว่าถ้าปีใดไม่ไปปักจะทำให้เกิดภัยพิบัติหรือเพทภัยต่างๆ ที่ทำให้ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อนหรือเสียชีวิตได้ เนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ เช่น นาคราชจะมาล้างบ้านล้างเมือง , ยักษ์จะมากินคน หรือช้างจะมากินข้าวที่ชาวบ้าน ทำการเพาะปลูก จากคำบอกเล่า ชาวบ้านได้ติดตามช้างไป พบว่ารอยเท้าช้างจะหายไปบริเวณเขาช้างล้วงทุกปี เป็นต้น ความเชื่อในเรื่องนี้เป็นที่ยอมรับและกล่าวถึงอยู่เสมอในหมู่ชาวนครไทย เพราะชาวบ้านหยิบยกเรื่องราว ที่ปีหนึ่งชาวนครไทยไม่ได้ไปปักธง ในปีนั้นชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านต่างๆ เสียชีวิตไปหลายคน ตั้งแต่บ้านวัดเหนือ จนถึงหัวร้อง ในช่วงเวลาเดียวกัน ในปีนั้นชาวบ้านต้องขึ้นไปปักธงภายหลัง

และ ปักธงเพื่อระลึกถึงพ่อขุนบางกลางหาว เมื่ออพยพมาอยู่ที่เมืองนครไทย ( บางยาง ) ครั้งแรก ได้เกิดการสู้รบกับพวกเจ้าของถิ่นเดิมที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ มีการต่อสู้รุกไล่กัน จนถึงเทือกเขาช้างล้วง ทัพของพ่อขุนบางกลางหาวประสบชัยชนะ จึงเอาผ้าคาดเอวของพระองค์ผูกปลายผ้า ปักที่ยอดเขาช้างล้วง ไว้เป็นอนุสรณ์ที่มีชัยชนะแก่ศัตรู และพระองค์ได้สั่งลูกหลานทั้งหลายไปปักธงจุดชนะศึก เพื่อรำลึกถึงชัยชนะของพระองค์ทุกปี ถ้าปีใดไม่ขึ้นไปปักก็ขอให้มีอันเป็นไป 3. ผู้ปกครองนครไทย คิดระบบการส่งข่าวสาร เนื่องจากสมัยก่อน พวกฮ่อมักจะยกพวกมารังแกชาวนครไทย จึงมีข้อตกลงกันระหว่างแม่ทัพนายกองว่า เมื่อใดเห็นผ้าขาวม้า ชักขึ้นไปปักบนยอดเขาช้างล้วง ก็ให้เตรียมพลต่อสู้ศัตรูเพื่อป้องกันบ้านเมือง

ข่าว  :  เล็ก  บ้านแยง