ผงะพบศพถูกฝังในสวนมะม่วงเหลือแต่กระดูก

ชาวบ้านลงแรงตัดต้นมันในสวนมะม่วงเจอกระดูกโผล่ในร่องเชื่อเป็นของมนุษย์โร่แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ตำรวจมาตรวจสอบ พบเป็นศพมนุษย์ถูกฝังขุดขึ้นมาคาดเป็นชายกลางคนน่าจะพึ่งพ้นโทษออกมาเพราะใส่กางเกงเหมือนนักโทษที่ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เพราะไม่มีเสื้อผ้าตนเองสวมใส่ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ร.ต.อ.สุรพงศ์ เหมือนศรีชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีชาวบ้านพบโครงกระดูกมนุษย์กลางไร่มันสำปะหลัง พื้นที่หมู่ 11 บ้านร้องหวายผาด ต.ดอนทอง ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.สุทัศน์ มณสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน พ.ต.ท.หญิง สุนันทา ศรีพันนาม นวท.(สบ.3) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พบที่เกิดเหตุเป็นสวนมะม่วงและปลูกมันปะหลังแซม มีเนื้อกว่า 10 ไร่ ห่างไกลบ้านเรือนประชาชน มีชาวบ้านจำนวนมากกำลังจับกลุ่มยืนมุงดูเหตุการณ์กันอยู่

จากการตรวจสอบพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกฝังไว้ในท้องร่องที่เจ้าของสวนมะม่วงปลูกต้นมันสำปะหลังแซมไว้ มีชิ้นส่วนกระดูกที่มีเหล็กดามโผล่ออกมา ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันใช้จอบและเสียมขุด นำร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือแต่กระดูกขึ้นมาชันสูตรเบื้องท่ามกลางกลิ่นเหม็นเน่าตลบอบอวล ลักษณะผู้เสียชีวิตสวมเสื้อคลุมลายพรางทหาร คลุมทับเสื้อแขนกุดไหมพรมสีแดง ใส่กางเกงขาสั้นสีดำมีกระเป๋าด้านหน้า ลักษณะเดียวกับกางเกงจับหมูหรือกางเกงแป๊ะ ปักตัวอักษรสีชมพูด้วยมือคำว่า “เหล็กไฟ” ซึ่งนักโทษใช้สวมใส่อยู่ในเรือนจำ และมีกระเป๋าย่ามสีน้ำเงิน 1 ใบ ภายในมียาเส้นตราดาว 1 ถุง ไฟแช็ค 1 อัน และยารักษาโรคแก้แพ้จำนวนหนึ่ง รวมทั้งพระเครื่อง 1 องค์ที่ใช้ผ้าขนาดใหญ่ที่มีลายพิมพ์พระฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ห่อไว้ ที่กระดูกส่วนคอสวมสร้อยประคำ 1 เส้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นางลำเพย ลีปลา อายุ 49 ปี ผู้พบศพคนแรก ให้การว่า วันนี้ตนเองพร้อมกับพรรคพวก ได้เดินทางมารับจ้างตัดต้นมันสำปะหลัง กระทั่งระหว่างที่ตัดต้นมันสำปะหลังอยู่นั้น ไปสังเกตเห็นว่าในท้องร่องมีชิ้นส่วนกระดูก ตอนแรกคิดว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกของสุนัข จึงใช้มีดเขี่ยดูก็พบว่าเป็นกระดูกขนาดใหญ่และมีเศษเหล็กดามเอาไว้ ด้วยความตกใจคิดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกของมนุษย์จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้รับทราบเรื่อง ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น แล้วนำร่างมาฝังไว้ในไร่มันสำปะหลังเพื่ออำพรางศพก็เป็นได้

เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิต เป็นชายอายุระหว่าง 40 – 50 ปี และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพราะเนื้อเยื่อเริ่มเน่า หัวกะโหลกและชิ้นส่วนร่างกายอื่น ๆ อยู่ครบ กระดูกท่อนขาขวาและกระดูกปลายแขนขวาถูกดามด้วยเหล็กเอาไว้ ซึ่งน่าจะเคยประสบอุบัติเหตุมาก่อน ส่วนขากรรไกรหักยังไม่ทราบว่าถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตหรือหักมาก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตหรือไม่ จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมดส่งไปชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และจะได้ทำการตรวจเก็บหาดีเอ็นเอ เพื่อใช้ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครมาจากไหน และการเสียชีวิตเกิดจากการถูกฆาตกรรมอำพรางโดยการนำศพมาฝังไว้ที่จุดเกิดเหตุหรือไม่

ตำรวจสอบสวน นางลำเพย ลีปลา อายุ 49 ปี ผู้พบศพคนแรก ให้การว่า วันนี้ตนเองพร้อมกับเพื่อนบ้านชาวหินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มาช่วยเพื่อนบ้านซึ่งเป็นเจ้าของสวนมะม่วงแบบเอาแรงกัน เพื่อตัดต้นมันสำปะหลัง ระหว่างที่ตัดไปได้เพียง 3 ต้นห่างจากถนนลูกรังระหว่างหมู่บ้านประมาณ 5 เมตร ก็พบว่าในท้องร่อง ก็พบชิ้นส่วนกระดูก ตอนแรกคิดว่าเป็นกระดูกของสุนัข จึงใช้มีดเขี่ยดูก็พบว่าเป็นกระดูกขนาดใหญ่และมีเหล็กดามเอาไว้ ด้วยความตกใจคิดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้รับทราบเรื่อง ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ส่วนตัวเชื่อว่าผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่นแล้วคนร้ายนำศพมาฝังไว้ เพราะสวนมะม่วงจะถูกปล่อยไว้ไม่มีคนเฝ้า 2 – 3 เดือนเจ้าของจึงจะมาดูสักครั้งเพราะอยู่ที่บ้านหินลาด อ.วัดโบสถ์ ด้วยกัน

ด้านตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้กระจายกำลังลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลและเบาะแสเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตทันที ตามคำสั่งของ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก เบื้องต้นพบว่าภายในหมู่บ้านจุดที่พบศพผู้ใหญ่บ้านไม่ได้รับแจ้งว่ามีบุคคลสูญหาย รวมทั้งหมู่บ้านใกล้เคียงก็ไม่มีผู้ใดแจ้งคนหายเช่นกัน ส่วนฟาร์มหมูและฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ก็ไม่มีคนงานสูญหายแต่อย่างใด จึงต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ว่าศพผู้เสียชีวิตดังกล่าวถูกทำร้ายร่างกายจนทำให้เสียชีวิตหรือไม่ และติดตามหาญาติให้พบเพื่อจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป