หนุ่มใหญ่ขับ จยย.ชนท้ายรถบรรทุกน้ำแขวงการทางเสียชีวิต

หนุ่มวัย 40 ปี ขับรถจักรยานยนต์จะไปทำงานในเมืองพิษณุโลก ไม่ทันระวัง รถพุ่งชนท้ายรถบรรทุกน้ำรดต้นไม้ ของแขวงการทาง ขณะรดน้ำต้นไม้เกาะกลางถนนจนเสียชีวิต ขณะที่คนขับรถบรรทุก เผยเปิดสัญญาณไฟชัดเจนขณะปฏิบัติหน้าที่ คาดผู้เสียชีวิตไม่ทันระวังจึงพุ่งชนดังกล่าว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2563 ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกน้ำที่กำลังรดน้ำต้นไม้เกาะกลางถนนสายพิษณุโลก – สุโขทัย ฝั่งขาเข้าเมืองพิษณุโลก ใกล้กับปั้มน้ำมัน ปตท.พลายชุมพล ไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พบรถบรรทุกน้ำยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง ของกรมทางหลวง หมายเลขทะเบียน 97-3377 กทม. จอดอยู่บริเวณเลนส์ขวาสุดชิดเกาะกลางถนน บริเวณท้ายรถมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนบุบ และมีสร้อยคอทองคำพร้อมเหรียญรัชกาลที่ 9 เลี่ยมทองของผู้เสียชีวิตขาดติดอยู่ที่ด้านหลังรถ 1 เส้น และพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 5 กฌ-6763 กทม. สภาพพังเสียหายยับเยินทั้งคันทับขาข้างซ้ายของผู้เสียชีวิตที่นอนหงายจมกองเลือดอยู่

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสุทธิศักดิ์ พงษ์จินดา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 3 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ แขนขาหักผิดรูป ตำรวจสอบสวน นายบรรชา ช้างพินิจ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190/1 หมู่ 3 ต.ไผ่ขอดอน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ลูกจ้างชั่วคราวกรมทางหลวง ซึ่งเป็นผู้ขับรถบรรทุกน้ำทราบว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังปฏิบัติหน้าที่รดน้ำต้นไม้ในเกาะกลางถนนอยู่ โดยเริ่มรดน้ำตั้งแต่บริเวณจุดยูเทิร์นหน้าบริษัทโตโยต้า มาถึงจุดเกิดระยะทางประมาณ 800 เมตร ตนขับรถช้า ๆ เพื่อปล่อยน้ำรดน้ำต้นไม้พร้อมเปิดสัญญาณไฟสีเหลืองตามปกติ และเปิดไฟผ่าหมาก พอได้ยินเสียงดังโครมบริเวณหลังรถ เมื่อลงมาดูก็พบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวชนท้ายรถตนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตจึงโทรศัพท์แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดังกล่าว

ต่อมานายจ้างของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ยืนยันกับตำรวจว่าผู้เสียชีวิต คือ นายสุทธิศักดิ์ พงษ์จินดา เป็นลูกจ้างตนมีหน้าที่ขับรถยนต์ให้กับครอบครัวของตน ขณะเกิดเหตุคาดว่า นายสุทธิศักดิ์น่าจะอยู่ระหว่างการเดินทางไปทำงานที่บ้านของตนซึ่งอยู่ในเมืองพิษณุโลก แล้วแวะเติมน้ำมันรถก่อนออกจากปั้มน้ำมัน ปตท.มา น่าจะมัวแต่มองรถที่ขับตามหลังโดยไม่ทันสังเกตว่ามีรถน้ำอยู่ข้างหน้า จึงทำให้ชนท้ายรถบรรทุกน้ำเข้าอย่างจังเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์ชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อรอญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป