อบรมฟื้นฟูศักยภาพ อสม. รุ่นที่ 2

กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายมุ่งพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ และ พัฒนาศักยภาพ อสม. ให้คนไทยทุกครอบครัว มีหมอประจำตัวสามคน คือ หมอประจำบ้าน (อสม) ,หมออนามัย และหมอครอบครัว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.2563 นายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล เป็นประธานเปิดการอบรมฟื้นฟูศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รุ่นที่ 2 ที่ห้องประชุมโรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมี นายธรรมรัตน์ เพชรี สาธารณสุขอำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวรายงาน และ นายศักดา เรืองเดช ผู้อำนวยการโรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล, คณะวิทยากร และ อสม. ที่อยู่ในสังกัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เครือข่ายโรงพยาบาลพระพุทธชินราช จำนวน 6 แห่ง จำนวนทั้งสิ้น 203 คน เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ ซึ่งมีกำหนดการอบรม จำนวน 2 วัน คือวันที่ 17 – 18 ธันวาคม 2563


สำหรับการอบรมฟื้นฟูศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อสม. นี้ เป็นนโยบายสำคัญประการหนึ่งของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข คือการพัฒนาศักยภาพบริการด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ลงลึกถึงหมู่บ้าน และชุมชน ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขเน้นให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการดำเนินงานสาธารณสุขในระดับตำบลด้วยหัวใจ 4 ดวง ซึ่งเป็นเสาหลักในการทำงาน คือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล. อสม., แผนสุขภาพตำบล และกองทุนสุขภาพตำบล โดยเฉพาะ อสม. นั้นถือเป็นหัวใจดวงใหญ่ และสำคัญเนื่องจากเป็นผู้เสียสละ เป็นตัวเชื่อมระหว่างภาครัฐ กับประชาชนในชุมชน ในการดำเนินงานกิจกรรมด้านสาธารณสุข และมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน ทั่วประเทศ ที่ทำงานให้กับชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานต่าง ๆ ในบทบาทเชิงรุก

รวมทั้งในปีงบประมาณ 2564 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายมุ่งพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ และ พัฒนาศักยภาพ อสม. ให้คนไทยทุกครอบครัว มีหมอประจำตัวสามคน คือ หมอประจำบ้าน (อสม) ,หมออนามัย และหมอครอบครัว ทำให้อาสาสมัครสาธารณสุขต้องมีบทบาทหน้าที่และภารกิจเพิ่มขึ้นตามไปด้วยทั้งด้านทักษะ วิชาการและองค์ความรู้ใหม่ในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขตามนโยบาและชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขอำเภอเมืองพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการ “อบรมฟื้นฟูศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ปีงบประมาณ 2564” ขึ้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูความรู้ ทักษะการดำเนินงานของ อสม. ให้มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนางานสุขภาพภาคประชาชนให้บรรลุตามยุทธศาสตร์จังหวัดพิษณุโลก และกระทรวงสาธารณสุขต่อไป