หนุ่มใหญ่ข้าราชการสำนักงานทรัพยากรน้ำขับกระบะกลับจากงานศพ พุ่งชนท้ายรถพ่วง 22 ล้อ ถูกอัดก็อปปี้เสียชีวิตคาที่

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. ร.ต.อ.นพดล  ไม้งาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีเหตุรถกระบะพุ่งชนกับท้ายรถพ่วง 22 ล้อ ทำให้มีผู้เสียชีวิตบนถนนสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ฝั่งขาเข้าเมือง หมู่ 1 ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก บริเวณหน้าปั้มน้ำมันเอสโซ่ ไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พุทธชินราช และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต 2 ประตู สีเลือดหมู ทะเบียน ผก 4970 พิษณุโลก จอดอยู่บนเลนกลางของถนนสามเลน สภาพหน้ารถพังเสียหายยับเยิน มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในที่นั่งคนขับรถยนต์กระบะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาให้ตำรวจและแพทย์ชันสูตรเบื้องต้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอัศวิน  สินตั้ง อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 528/7 หมู่ 8 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายช่างฝีมือสนาม ช.2 สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 9 ส่วนรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 80-6570 อำนาจเจริญ ทะเบียนตัวลูก 84-9444  ขอนแก่น สภาพท้ายพ่วงรถได้รับความเสียหายจอดอยู่ริมถนน

ตำรวจสอบสวน นายขจรศักดิ์  ทองศรี อายุ 27 ปี คนขับรถพ่วง 22 ล้อ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุแวะเติมน้ำมันที่ปั้มน้ำมันเอสโซ่เสร็จแล้ว ได้ขับออกมาจากปั้มแล้วกำลังเลี้ยวยูเทิร์นเพื่อกลับรถ จนตั้งลำแล้วเพื่อมุ่งหน้าสี่แยกบ้านประโดกเลี้ยวซ้ายออกถนนบายพาสเลี่ยงเมืองพิษณุโลกไป อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ แต่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูง คาดว่าผู้เสียชีวิตเบรกรถไม่ได้ทัน จึงพุ่งชนท้ายรถพ่วงเข้าอย่างจัง นายขจรศักดิ์จึงหยุดรถลงมาดูก็พบว่าคนขับรถกระบะเสียชีวิตไปแล้ว ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน จึงโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจทราบเหตุทาง 191 ดังกล่าว

ด้าน ร.ต.อ.คเชนทร์  สินตั้ง ญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายอัศวิน มีอาชีพรับราชการอยู่ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 9 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ก่อนเกิดเหตุพวกตนได้ขับรถไปงานศพแต่ขับไปคนละคัน และออกจากงานศพมุ่งหน้าจะกลับบ้านพักที่ อ.วังทอง ซึ่งตนขับตามหลังมาห่าง ๆ จนกระทั่งมาพบว่ามีอุบัติเหตุอยู่ข้างทางจึงจอดลงไปดู ก็พบว่าเป็นนายอัศวินซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชาย ตนตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งตำรวจคาดว่านายอัศวินอาจจะไม่ทันสังเกตเห็นไฟท้ายรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ทำให้ชนเข้าอย่างจังหรือเกิดอาการหลับในด้วยความอ่อนเพลีย จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราช ก่อนมอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

• แชร์
• ทวีต
• ส่งไลน์