เผยผลจับกุม ลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย
ทัพภาค 3 ร่วมกับศุลกากรตั้งด่านตรวจค้นจับกุมการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย
พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย พ.อ.นพ.วิโรจน์ ชนม์สูงเนิน และพ.ท.หญิงบุณฑริกา ฑีฆวาณิช รองโฆษกฯ ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ครั้งที่ 116 ณ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3/ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดย พ.ท.วรปรัชญ์ กาศสกุล กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับศุลกากร ได้ดำเนินการจัดตั้งด่านตรวจค้นจับกุมการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติในพื้นที่กองกำลังนเรศวร และกองกำลังผาเมือง
โดยมีรายละเอียดการดำเนินการปราบปรามที่สำคัญ จำนวน 2 เหตุการณ์ คือ เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร จำนวน 1 ชุด กำลังปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากด่านศุลกากรแม่สอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ได้ทำการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณบ้านห้วยหินฝน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะตั้งจุดตรวจได้มีรถยนต์ขนส่งพัสดุของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ขับผ่านมาที่จุดตรวจ/จุดสกัด จากการตรวจสอบภายในรถ พบว่ามีห่อพัสดุซึ่งภายในบรรจุเครื่องสำอางประเภทครีมทาผิวที่มีแหล่งผลิตจากต่างประเทศ จำนวน 302 ชิ้น โดยไม่ปรากฏหลักฐานการผ่านขั้นตอนทางศุลกากร เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันอายัดสินค้าดังกล่าวไว้เพื่อตรวจสอบและให้เจ้าของสินค้านำเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอดต่อไป
เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตเชียงราย กองกำลังผาเมือง กำลังลาดตระเวนตรวจความเรียบร้อยบริเวณบ้านแจมป๋อง ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้พบเห็นชาย 2 คน กำลังช่วยกันขนย้ายสิ่งของบางอย่างลงจากรถกระบะ 2 คัน ที่จอดอยู่ริมตลิ่ง ลงไปยังเรือลำหนึ่ง ที่จอดรอรับและกำลังเตรียมจะออกเรือจากริมแม่น้ำโขงฝั่งประเทศไทย ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุด เพื่อทำการตรวจค้น แต่เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร จึงได้พากันหลบหนี พร้อมทั้งคนขับเรือได้นำเรือแล่นหนีไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน เป็นรถยี่ห้อโตโยต้า สีเทา สภาพเก่า 1 คัน และรถยี่ห้อนิสสัน สีดำ สภาพเก่า 1 คัน ที่กระบะท้ายรถทั้งสองคันนี้ มีกล่องกระดาษบรรจุสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนหลายรายการ ซึ่งเป็นสินค้าที่กำลังลักลอบนำส่งออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านขั้นตอนทางศุลกากร เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งด่านศุลกากรเพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้จึงได้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ในการสกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมายโดยไม่ผ่านการเสียภาษี ทำให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์ อีกทั้งยังไม่มีการตรวจสอบและกักกันโรค และไม่มีการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชนผู้บริโภคได้
