สมาชิกสหกรณ์เฮ รับเงินชะลอขายข้าวเปลือกนาปี กว่า 1.7 ล้านบาท

สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก มอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายทรงยศ ไชยมงคล ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ นายสท้าน วรรณา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดพิษณุโลก และนายเฉลิมพล พิมมา ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาหนองกุลา ร่วมเป็นสักขีพยาน การมอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้แก่เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/2564 โดยมีนายจำลัด เพียพล ประธานสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด และสมาชิกสหกรณ์ ร่วมให้การต้อนรับ ที่สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด สาขาคุยม่วง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก


นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายสำคัญเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกและยกระดับราคาข้าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศ โดยออกมาตรการเสริมคู่ขนานเพื่อเปิดโอกาสให้สหกรณ์ที่มีศักยภาพสามารถเข้าร่วม 2 โครงการ คือ 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/2564 และ 2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2563/2564 เพื่อช่วยดูดซับปริมาณผลผลิตข้าวเปลือก สามารถนำมาเก็บรักษาตามเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อรอการจำหน่ายสร้างมูลค่าเพิ่มในห้วงเวลาที่เหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร

ทางสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด ได้สมัครเข้าร่วมโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/2564 ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้ขอรับวงเงินสนับสนุนสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย จากธนาคารเพื่อการการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาหนองกุลา จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 18,718,560 บาท เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป ที่มีคุณสมบัติตามโครงการฯ จำนวน 225 ราย มีปริมาณการรวบรวมข้าวเปลือก(แห้ง) จำนวน 3,466,400 กิโลกรัม เกษตรกรสมาชิกได้รับประโยชน์จากค่าฝากเก็บผลผลิต ตันละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 1,746,312.50 บาท โดยสหกรณ์ได้จัดเก็บผลผลิตข้าวเปลือกไว้ในฉาง ขนาด 10,000 ตัน โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนงบเงินอุดหนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บผลผลิตที่รับซื้อไว้ รอการจำหน่ายอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนระบายผลผลิตข้าวเปลือกออกสู่ตลาด

เมื่อสหกรณ์ฯ มีฉางและอุปกรณ์การตลาดที่ครบครัน จะช่วยให้สหกรณ์สามารถรวบรวมรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปในปริมาณที่เพิ่มขึ้น การใช้ประโยชน์จากฉางเพื่อกักเก็บผลผลิตทางการเกษตรไว้รอการจำหน่าย เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองราคา ทำให้สหกรณ์สามารถขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้สหกรณ์ฯ ยังได้รับเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวจากโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/2564 ตันละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 3,492,625 บาท ทำให้สหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์มีรายได้เพิ่ม มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น




