ตำรวจเผยกรณีนายแม้วอายุ 18 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ลงมือก่อเหตุบีบคอ น.ส.จุฑารัตน์ หรือปอ  กองแก้ว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/1 หมู่ที่ 25 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นคู่หมั้นแล้วนำศพขึ้นรถกระบะไปเผานั่งยางจนเหลือเพียงโครงกระดูกบริเวณกลางป่าสวนยางพาราหมู่ 11 บ้านม่วงหอม ต.แก่งโสภา อ.วังทอง ก่อนสำนึกผิดสารภาพกับญาติและให้พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.แก่งโสภา เหตุเพราะมีความกดดันที่ญาติผู้เสียชีวิตออกตามหาไม่ลดละ และอยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย

วันนี้ (10 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของคดีนี้มาว่า  พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตำรวจ  สภ.แก่งโสภา ได้ดำเนินการสอบสวนพยานบุคคลไม่ว่าจะเป็นทั้งพ่อ แม่ ญาติ หรือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาข่าว ตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นไปตามที่เขาให้การหรือไม่  จนถึงจุดที่ศพซึ่งก็เป็นไปตามที่เสนอข่าวไปแล้ว โครงกระดูก มือถือ อุปกรณ์ ดีเอ็นเอ ชัดเจน โดยเฉพาะก่อนเกิดเหตุ มีคนพบเห็นว่าผู้ต้องหาอยู่กับคนตาย   หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้รวบรวมได้ครบ มีอะไรเพิ่มเติมต้องรอผลยืนยันอีกครั้งหนึ่ง รายละเอียดสาเหตุการตาย ร่องรอยที่รถที่ยึดได้ ร่องรอยที่เกิดเหตุ ได้ดำเนินการมีความคืบหน้ามาก ส่วนหนึ่งผู้ต้องหามามอบตัวด้วย กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ชัดเจน

ผู้ต้องหารับสารภาพ เพราะกลัวความผิด ก็เลยเอาคนตายไปเผา เพื่อซ่อนเร้นปิดบัง  ตนคิดว่าด้วยความเป็นเด็ก กลัวความผิด อารมณ์ชั่ววูบ ความหึงหวงทะเลาะกันเลยพลั้งมือ พยานหลักฐานยังพบว่ากระทำการเพียงคนเดียว ยังไม่พบว่ามีผู้อื่นร่วมด้วย แต่ทางการสืบสวนทางตำรวจก็ไม่ทิ้งประเด็นผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้  จากการตรวจสอบความผิดอื่นไม่มี มีเพียงประเด็นเดียวเป็นเรื่องความหึงหวง ทะเลาะเกรงว่าผู้หญิงตีตัวออกห่าง  มูลเหตุที่นายแม้ว ผู้ต้องหา มามอบตัวและรับสารภาพ เชื่อว่าน่าจะเป็นความกดดันจากทางญาติผู้ตายเอง ตนเชื่อว่าด้วยพยานหลักฐานหลังจากญาติฝ่ายหญิงแจ้งความลูกสาวหายไป ประกอบกับช่วงก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาอยู่กับผู้ต้องหา ในการสอบสวนทำให้เค้าไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้ตายไปไหน อย่างไร ด้วยพยานหลักฐานพุ่งมาที่ตัวเด็ก ม. 6 จึงถูกกดดันทำให้ต้องยอมรับผิด

พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก กล่าวต่อว่า ด้านโทษค่อนข้างรุนแรง 1 เจตนาฆ่า 2 ปิดบังซ่อนเร้น การมอบตัวความผิดโทษน้อยลง ทางตำรวจเจตนาฆ่าพิสูจน์ตัวเขาเอง  รถกระบะที่นำศพไปเป็นของปู่ซึ่งจอดอยู่ภายในบ้าน ผู้ต้องหาเคยใช้ขับเป็นประจำ  ส่วนล้อยางอยู่บนรถอยู่แล้ว ไม่ได้ซื้อแต่งอย่างใด ทางตำรวจยังไม่ได้เชื่อคำให้การทั้ง 100 % ผู้ต้องหามีสิทธิให้การอะไรก็ได้ เพื่อดำเนินการเมื่อวานทางตำรวจทำงานทั้งวัน  ขอเวลาให้ตำรวจทำงานก่อน แต่หลักฐานและพยานเวลานี้สอดคล้องกันว่า ผู้ต้องหาลงมือทำเพียงคนเดียวเท่านั้น

ล่าสุด พล.ต.ท.อภิชาติ  ศิริสิทธิ์  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์  ฉันทวราลักษณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และกำชับให้พนักงานสอบสวนทำคดีอย่างเป็นธรรมและรัดกุมให้มากที่สุด เนื่องจากผู้ต้องเป็นเยาวชน และเป็นที่สะเทือนขวัญสังคมให้ความสนใจ ขณะที่การทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ผ่านมา นายแม้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีเรื่องทะเลาะรุนแรงกันตั้งแต่เช้า จนกระทั่งลงมือบีบคอในห้องนอน จนน้องปอเสียชีวิตแล้วลากศพเผาอำพรางคดีดังกล่าว