หนุ่มใหญ่ถูกฆาตกรโหดฆ่าฝังใต้ดินริมคลองชมพู

พี่สาวตามหาน้องชายหายตัวปริศนา 7 วัน กลับพบร่างถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบกลางหน้าผากเป็นรูขนาดใหญ่ฝังอยู่ในหลุมท้ายสวนมะม่วงหลังบ้านริมคลองชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 26 มี.ค. ร.ต.อ.ทรงสิทธิ์ สิงห์สถิตย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก รับแจ้งจาก นางสิมมา จันทร์ทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านปลวกง่าม ว่าพบศพคนถูกฝังดินบริเวณท้ายสวนมะม่วงติดกับริมคลองชมพู อยู่หลังบ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 5 บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนะชัย แสงศิริ ผกก.สภ.เนินมะปราง พ.ต.ท.ธนู ขำโอด รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.หญิง เรณุกา หมอนแพร นวท.สบ 3 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลเนินมะปราง พร้อมตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้านไม้ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ท้ายสวนมะม่วงอยู่ติดริมคลองชมพู พบหลุมดินกว้างประมาณ 1 เมตร ลึกกว่า 1.5 เมตร ที่ผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ทราบ โดยมีคราบเลือดติดอยู่ตามกิ่งไม้จำนวนหลายแห่งระหว่างทางลงไปที่หลุมดังกล่าว


โดยที่หลุมมีร่องรอยขุดลึกลงไปประมาณ 1 เมตรจนมองเห็นศีรษะมนุษย์ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ จุดเนินมะปราง ทำการขุดไว้เพื่อตรวจสอบเบื้องต้น ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการขุดหลุมให้กว้าง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จนมองเห็นร่างของผู้เสียชีวิตที่คาดว่าจะเป็น นายแหวน คำพรมมี อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 133 หมู่ 5 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ที่ญาติได้แจ้งความเป็นบุคคลสูญหายไว้ที่ สภ.เนินมะปราง สภาพศพมีมุ้งสีขาวคลุมร่างเอาไว้และมีถุงปุ๋ยใส่ถ่านไม้หุงต้มไว้ คาดว่าคนร้ายต้องการดับกลิ่นเหม็นเน่าของศพ มือสองข้างถูกมัดด้วยเศษผ้า ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำขึ้นมาให้ตำรวจและแพทย์ร่วมกันชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่ามีบาดแผลถูกทุบเป็นรูขนาดเท่าหัวฆ้อนที่ศีรษะ ท้ายทอย และแผ่นหลังมีรอยถูกทุบจนยุบ โดยนางแพงและญาติที่มาดูศพยืนยันว่าเป็นนายแหวนที่หายตัวไป


ตำรวจจึงทำการสอบสวน นางแพง กันวงษ์ อายุ 57 ปี พี่สาวซึ่งได้แจ้งกับ นางสิมมา จันทร์ทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ว่าน้องชายที่มาพักอาศัยอยู่ตนหายตัวไปอย่างปริศนาตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าแจ้งความคนหายไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เนินมะปราง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 มี.ค. ทราบว่า ก่อนหน้านี้ทางผู้ใหญ่บ้านได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ จุดเนินมะปราง มาช่วยกันค้นหาในละแวกใกล้เคียงกับบ้านพักแต่ก็ไม่พบตัว ต่อมาช่วงสายวันเดียวกันนี้ ญาติได้ไปให้ร่างทรงใน ต.ชมพู ให้ดูว่านายแหวนเป็นตายร้ายดีอย่างไร ซึ่งร่างทรงบอกว่านายแหวนเสียชีวิตไปแล้ว ศพอยู่ใกล้กับคลองน้ำด้านหลังบ้านที่พักอาศัยอยู่กับ นางแพง พี่สาว ผู้ใหญ่บ้านจึงประสานให้เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ มาช่วยค้นหาอย่างละเอียดอีกครั้งตามคลองชมพู กระทั่งพบดินลักษณะเหมือนถูกขุดเป็นหลุม จึงช่วยกันขุดจนพบคนถูกฆ่าฝังไว้ในดินดังกล่าว


นางแพง กล่าวต่อว่า ที่บ้านพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน คือตน สามี บุตรชาย หลานชาย รวมทั้ง นายแหวน น้องชายตนที่เสียชีวิต ซึ่งยังไม่มีครอบครัว วันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ตนลุกขึ้นมาหุงข้าวยังเห็นน้องชายนอนอยู่ในมุ้งที่ชั้นล่าง พร้อมกับบุตรชายของตน ส่วนตนกับสามีและหลานชายนอนอยู่ชั้นบน พอสายเดินไปน้องเพราะสงสัยว่าสายแล้วทำไมยังไม่ตื่นสักที เนื่องจากบอกกับตนว่าจะไปรับจ้างเก็บมะม่วง แต่พอมาดูก็เห็นเก็บที่นอนหมอนมุ้งเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าอาจจะไปซื้อกับข้าวมากินด้วยกัน แต่พอเวลาผ่านไปก็ไม่เห็นน้องชายกลับมาสักทีจนข้ามคืนจึงเริ่มใจไม่ดี คิดว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับน้องชายก็เป็นได้ จึงไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยกันติดตามออกค้นหา จนวันนี้ผ่านมาเป็นเวลา 7 วัน จึงมาพบศพถูกฆ่าฝังดินในสวนมะม่วงหลังบ้าน


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบมีดเปื้อนเลือดบริเวณหน้าบ้านจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่บ้านหลังเกิดเหตุได้ติดกล้องวงจรปิดเอาไว้หน้าบ้านแต่เมมโมรี่การ์ดกลับหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ตัวคนตาย รู้ว่ามีกล้องวงจรปิดที่อาจจะจับภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐาน หลังก่อเหตุฆาตกรรมแล้วจึงได้เอาเมมโมรี่การ์ดติดตัวหลบหนีไปด้วย หรืออาจจะนำไปทิ้งที่ใดที่หนึ่ง นอกจากนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำ นางแพง กันวงษ์ พี่สาวคนตาย แก้วน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ ล้มแตกพร้อมกันถึง 2 แก้ว ซึ่งไม่มีใครไปโดนแก้วน้ำแต่อย่างใด จนชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะเกิดจากอาถรรพ์ของคนตายที่เฮี้ยน อยากจะบอกอะไรให้ตำรวจฉุกคิดถึงตัวฆาตกรรายนี้ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างหาหลักฐานต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงในคดี รวมถึงเบาะแสของคนร้ายรายนี้ว่ามีสาเหตุแรงจูงใจ หรือมีเรื่องบาดหมางใดกับผู้ตายมาก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งเชิญตัวคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำอย่างละเอียดทุกคนอีกครั้ง เพื่อจะได้เร่งคลี่คลายคดีและติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก และให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวช รพ.พุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก ก่อนมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป