เปิดนาทีชีวิต “น้องปลื้ม”
นาทีชีวิต…น้องปลื้มนร.ม.5 โดนรุมทำร้าย วิ่งหนีลงจากศาลาถูกยิงใส่จนล้มฟุบ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีนักเรียนทะเลาะวิวาทก่อเหตุไล่ยิงกัน โดย นายพันยศ เจริญภักดี หรือน้องปลื้ม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5.2 โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนชายประจำจังหวัดพิษณุโลก ถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริซึ่งเป็นรุ่นพี่ของนักเรียนระดับชั้นเดียวกัน หลังก่อนหน้านี้ได้มีเรื่องกันในโรเรียน จนอาจารย์ฝ่ายปกครองต้องเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยและไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกัน แต่เรื่องกลับบานปลายไม่จบ เนื่องจากคู่กรณีได้ให้รุ่นพี่ซึ่งเป็นคนนอกโรงเรียนมาดักเคลียร์หลักเลิกเรียน แต่พูดคุยตกลงกันไม่ได้จนถูกรุมทำร้ายจนต้องยกมือไหว้วิ่งหนีตายเอาชีวิตรอด แต่กลับถูกวัยรุ่นคู่อริชักอาวุธยิงใส่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส
ล่าสุดมีผู้บันทึกภาพคลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้ บริเวณศาลารอรถติดกับสะพานลอยด้านหน้าโรงเรียนดังกล่าว เป็นภาพนาทีชีวิตที่น้องปลื้มถูกกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน รุมทำร้ายร่างกาย แต่น้องปลื้มก็ยกมือไหว้ร้องขอชีวิต และพยายามหนีฝ่าวงล้อมกระโดดออกมาจากศาลารอรถ แต่วิ่งหนีไปได้ไม่ถึง 10 ก้าว ก็ถูกวัยรุ่นชักอาวุธปืนยิงใส่จนล้มฟุบกองกับพื้น สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมป่าเถื่อนโหดเหี้ยมขนาดนี้ ซึ่งหลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนีไปคนละทิศละทาง ส่วนน้องปลื้ม ผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร อาการล่าสุดยังไม่พ้นขีดอันตราย
ขณะที่ในโลกโซเชียลมีเดีย ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Kook NP ได้โพสต์ลงในกลุ่มพิษณุโลกบ้านเรา ระบุว่า “หากใครพบเห็นบุคคลในภาพโปรดแจ้งเบาะแสให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เนื่องจากได้ก่อคดียิงเด็กนักเรียนหน้าโรงเรียนชายตอนเย็นวันนี้ เราเป็นพี่สาวของน้องที่ถูกยิง ขอความช่วยเหลือจากพี่ๆ น้องๆ ชาวพิษณุโลกด้วย เป็นหูเป็นตาให้เราด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” ส่วนแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุดตอนนี้ทราบชื่อหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้วคือ นายพัฒนกร เนตรวงษ์ หรือตั้ม อยู่ระหว่างติดตามตัวและขออำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลก ออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าน่าจะยังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก
ขอบคุณคลิป : กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพมงคลธรรม
