กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และวันอนุรักษ์มรดกไทย

ชาวอุตรดิตถ์สวมใส่เสื้อสีม่วง ร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” และวันอนุรักษ์มรดกไทย
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 เมษายน 64 ที่หอวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ นายผล ดำธรรม ผวจ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และวันอนุรักษ์มรดกไทย 2 เมษายน ทั้งช่วงเช้าและเย็น พร้อมด้วย นางวันทนา ดำธรรม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ นายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล รอง ผวจ.อุตรดิตถ์ นายศักดิ์ตระกูล เลี้ยงประเสริฐ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ นายชวลิต คำเพ็ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอลับแล นายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ นายจักรพรรณ สุวรรณภักดี นายอำเภอท่าปลา โดยมี นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่าวัตถุประสงค์ การจัดงานและหัวหน้าส่วราชการ พสกนิกรชาวอุตรดิตถ์ สวมใส่เสื้อสีม่วงร่วมงานดังกล่าวจำนวนมากและร้านของดีจังหวัดอุตรดิตถ์ 32 บูธ

“ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่ามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ และสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสถานที่สำคัญในจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย ภาคเช้า กิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก ที่วัดท้ายตลาด อ.เมืองอุตรดิตถ์ และภาคเย็น มีการถวายราชสักการะ การลงนามถวายพระพร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การแสดงศิลปวัฒนธรรม ลิเก ซอล่องน่าน เพลงพื้นบ้าน ดนตรีไทยการเดินแบบผ้าไทย การนำเสนอผลงานมรดกภูมิปัญญา ด้านวิถีชุมชนในรูปแบบของตลาดวัฒนธรรม เพื่อเป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นการใช้ Soft Power สร้างความสุข สร้างรายได้ สร้างความภาคภูมิใจ ให้กับประชาชนในจังหวัดอุตรดิตถ์ ตามนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งในการจัดงานดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 อย่างเคร่งครัด”นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าว

ทั้งนี้ นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากพระราชกรณียกิจ ด้านวัฒนธรรมและด้านต่างๆ นานัปการแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เองพระองค์เดียวปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และช่วยเหลือประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ถึง 5 ครั้ง ๆ แรก ปี พ.ศ.2533 ทรงนำนักเรียนนายร้อย จปร. มาศึกษาดูงาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2535 เปิดอาคารเหล่ากาชาด ครั้งที่ 3 ปี พ.ศ.2550 เยี่ยมประชาชนและประทับแรมเขื่อนสิริกิติ์ ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2551 ช่วยเหลือชาวบ้าน บ้านน้ำต๊ะและบ้านน้ำลี อำเภอท่าปลา จากภัยพิบัติดินโคลนถล่ม และครั้งที่ 5 ในปี 2559 ตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน ตชด.บุญธรรม-บุญพริ้งและโรงเรียนบ้านบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก รวมทั้ง ทรงเปิดห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี และทรงเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ 89 นวมินทรบพิตร ของเทศบาลตำบลร่วมจิต อำเภอท่าปลา ซึ่งพระราชกรณียกิจทั้งหมดนี้ยังความปลาบปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อประชาชนชาวอุตรดิตถ์ จึงได้ร่วมใจกันทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน และร่วมกันถวายพระพรชัยมงคลให้พระองค์หายจากพระอาการประชวร มีพระวรกายสมบูรณ์แข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ เจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยตราบนิรันดร์กาล “การรักษาวัฒนธรรม คือ การรักษาชาติ”
ข่าว : ประสิทธิ์ ผึ้งสุข