ทลายบ่อนไก่ชนสุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19

ผู้ว่าฯ เมืองคอน เดือดจัดสั่งสนธิกำลัง อส.ฝ่ายปกครองร่วมตำรวจบุกทลายบ่อนไก่ชน แอบเปิดเล่นกันไม่กลัวโควิด ได้นักพนันไก่ชน 15 คน ที่เหลืออีกกว่า 20 คนหนีกระเจิง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 เม.ย.2564 นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีการแอบลักลอบเปิดบ่อนไก่ชนเถื่อนเย้ย พรก.ฉุกเฉิน และไม่เกรงกลัวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่บริเวณในป่าละเมาะ หมู่ 10 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช, นายประสงค์ จันทร์หยู ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช, นายนันทวัฒน์ กิตติพันธุ์พัฒนา ปลัดอำเภอเมือง, พ.ต.ท.สมพร เพชรหนองชุม รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลัง อส.ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รวมจำนวน 15 นาย เดินทางไปตรวจสอบและจับกุมนักพนันไก่ชนที่บ่อนดังกล่าวและสั่งดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดเพราะเปิดบ่อนชนไก่อย่างไม่เกรงกลัวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19



ปรากฏว่าเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณป่าละเมาะดังกล่าว ทางเข้าเจ้าหน้าที่พบรถ จยย.และรถยนต์จำนวน 20 กว่าคันของนักพนัน จอดเรียงรายเต็มทางเข้าบ่อนไก่ชน ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้จู่โจมเข้าจับกุมนักพนันไก่ชนทันที โดยได้กระจายกำลังกันโอบล้อมแบบไม่ทันนักพนันได้ตั้งตัว ทำให้นักพนันไก่ชนหลายสิบคนเมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมต่างตกใจวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่จับนักพนันไก่ชนได้ทั้งหมดจำนวน 15คน พร้อมของกลางอุปกรณ์ชนไก่ครบ สนามไก่ชนชั่วคราว ไก่ชน4ตัว เดือยไก่ชน และของกลางอื่น ๆ อีกหลายรายการ คุมตัวนักพนันทั้ง 15 คน พร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนที่ว่าการอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช



จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา ลักลอบเล่นการพนันชนไก่พนันเอาทรัพย์สินซึ่งกันและกันโดยมิได้รับอนุญาต, ร่วมกันชุมนุมจัดกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในสถานที่แออัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้เกิดโรคอันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป อันเป็นการกระทำฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 1) ข้อ 5 ลงวันที่ 25 มี.ค.2563 และ มาตรา 34 (6) แห่ง พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2548