อุตรดิตถ์จับปรับทันทีหากไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

คุมเข้มสกัดโควิด-19 ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 64 เวลา 10.00 น. นายผล ดำธรรม ผวจ.อุตรดิตถ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 10 เมษายน 2564 โดยปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฯ ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ที่สามารถติดต่อและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ที่มีการระบาดระลอกของโควิด ตั้งแต่วันที่ 1-23 เมษายน 64 มีผู้ติดโควิด-19 จำนวน 51 ราย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ จึงเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชกำหนดโดยเฉพาะมาตรการ DMHTT ได้แก่ D – Distancing : อยู่ห่างไว้ M – Mask wearing : ใส่หน้าผ้าหรือหน้ากากอนามัย H – Hand wash : หมั่นล้างมือ T – Testing : ตรวจวัดอุณหภูมิ T – Thai Cha na : ใช้แอปฯ ไทยชนะ


“ในกรณีประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถาน/ สถานที่สาธารณะ หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไปย่อมมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งอาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามมาตรา 34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการและประชาชนให้ถือปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัดต่อไป”
ข่าว : ประสิทธิ์ ผึ้งสุข