สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโรคโควิด -19 ระลอกใหม่ เดือนเมษายน ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ เวลา 09.00 น.วันที่ 24 พ.ค.64 พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19  เพิ่ม 10 คน ยอดผู้ป่วยติดเชื้อฯ สะสมรวม 825 คน เสียชีวิต 10 คน รักษาหายแล้ว 576 คน รักษาตัวใน รพ. 239 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามสถานที่ราชการและหน่วยงานเอกชน เช่น สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มูลนิธิประชาร่วมใจ วัดสระเรียง วัดวังตะวันตก วัดบุญนารอบ (จำปาขอม ) โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง เป็นต้น ได้มีการติดตั้งตู้อุโมงค์พ่นฆ่าเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ไว้บริเวณประตูทางเข้าแต่ละหน่วยสถานที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการและติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ ดังกล่าวมากขึ้น  ซึ่งเฉพาะที่ติดอยู่ที่ประตูทางขึ้น สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีข้อความติดว่า “ตู้พ่นยาป้องกันโรคโควิด -19 สนับสนุนโดย พระครูสมุห์พิสิทธิ์  อนาลโย รักษาการเจ้าอาวาสวัดคงคาเลียบ และจากการสอบถามทราบว่าตู้อุโมงค์พ่นยาฆ่าเชื้อโคววิด-19 ที่ติดตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ ทุกแห่งผู้ผลิตคือ พระครูสมุห์พิสิทธิ์ อนาลโย รักษาการเจ้าอาวาสวัดคงคาเลียบ

จึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดคงคาเลียบ หมู่ 3 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบว่ามีการติดตั้งตู้อุโมงค์พ่นยาฆ่าเชื้อโควิดแบบเดียวกันไว้บริเวณทางเดินเข้าวัด 1 ตู้ขนาดกว้าง 1 เมตรยาว 2 เมตร สูง 2 เมตร โดยทุกคนที่เดินทางมาวัดจะต้องเดินผ่านตู้อุโมงค์ฆ่าเชื้อดังกล่าว โดยก่อนเดินเข้าตู้อุโมงค์ทุกคนจะกดสวิตซ์ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้าแช่ไว้ 2-3 วินาทีจากนั้นจึงเดินเข้าไปในตู้อุโมงค์ซึ่งภายในตู้จะมีน้ำยาฆ่าเชื้อประสิทธิภาพสูงพ่นออกมาจากหัวพ่นหมอกควันที่ติดตั้งภายในตู้ 4 จุด จนเป็นหมอกควันหรือไอน้ำฟุ้งกระจายภายในตู้และมีกลิ่นหอมสดชื่น

พระครูสมุห์พิสิทธิ์ เปิดเผยว่า อาตมากำลังเตรียมการที่จะผลิตตู้อุโมงค์ฆ่าเชื้อ ฯเพิ่มเติมตามที่มีผู้ร้องขอจำนวน 3 ตู้ ประกอบด้วยร้านอาหารกัปตันซีฟู้ด สภ.ปากพนัง และโรงเรียนการกุศลวัดท้าวราษฏร์  ต.กำแพงเซา อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยก่อนหน้านี้อาตมาและพระภิกษุ สามเณรวัดคงคาเลียบช่วยกันผลิตและนำไปติดตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ มาแล้ว 10 ตู้ สำหรับแนวคิดในการออกแบบและผลิตนั้น ตามปกติอาตมา ได้จัดตั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ “กู้ภัยวัดคงคาเลียบ” ขึ้น เพื่อออกช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณะภัยต่าง ๆ หลังจากเกิดสถานการณ์โรคโควิดระบาดหนัก อาตมานั่งคิดต่อเนื่องหลายวันว่าจะมีวิธีการใดบ้างที่พอจะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสังคมส่วนรวมได้บ้าง จนเมื่ออาตมานอนหลับและฝันว่ามีวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตที่สิงสถิตอยู่ในวัดมาเข้าฝันและบอกให้อาตมาผลิตตู้อุโมงค์ฉีดพ่นหมอกควันฆ่าเชื้อโควิดเพื่อนไปติดตั้งตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ

“เมื่อตื่นขึ้นมาจึงได้พยายามจะค้นคว้าหาความรู้จนไปพบว่ามีบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่งผลิตตู้อุโมงค์พ่นฆ่าเชื้อโรคจำหน่าย แต่เมื่อดูราคาพบว่ามีราคาสูงตู้ละไม่น้อยกว่า 50,000 บาท อาตมาเห็นว่าราคาสูงเกินไปจึงตัดสินใจลงมือผลิตเองตอนแรกใช้ท่อพีวีซี (ท่อประประปา) มาตัดเชื่อมต่อกันเป็นโครงกั้นด้วยแผ่นผ้าพลาสติกใส จากนั้นไปซื้อหัวพ่นมาติดตั้งในตู้ ๆละ 4 หัวโดยต่อสายมายังเครื่องปั้มน้ำ แต่เมื่อเสียบไฟใช้งานสายยางก็แตกเพราะปั้มน้ำแรงดันสูงเกินไป พยายามทดลองกับเครื่องปั้มน้ำขนาดต่าง ๆ ก็ไม่ได้ผล จึงโทรศัพท์สอบถามลูกศิษย์เจ้าของร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ก็ได้รับคำแนะนำปั้มแรงดันต่ำที่เหมาะกับหัวพ่น 4 หัว จนได้ปั้มน้ำที่เหมาะกับการนำมาใช้กับหัวพ่นหมอก 4 หัวพอดี

แต่ต้องสั่งซื้อจากกรุงเทพมหานครเครื่องละ 1,5000 บาท ซึ่งการนำไปติดตั้งในช่วงแรกจะต้องมีคนยื่นหน้าตู้เพื่อฉีดพ่นฆ่าเชื้อ จึงคิดหาวิธีการติดตั้ง สวิตซ์ปิดเปิดแต่หาสวิตซ์ที่มาใช้กับไฟ 12 โวลต์ไม่ได้ส่วนใหญ่ใช้ไฟ 220 โวลต์  เสาะหาและลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งในที่สุดก็มาจบที่สวิตซ์กดออดประตูบ้าน ก่อนจะพัฒนาจากโครงท่อพีวีซีที่ไม่แข็งแรง มาเป็นโครงตู้อุโมงค์ทำจากอลูมิเนียม ทุกอย่างจึงเสร็จสมบูรณ์ภายในเวลา 1 เดือน  ตู้ฯ ของอาตมาติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา แข็งแรง ค่าใช้จ่ายน้อย ซึ่งทุกคนที่ผ่านแค่กดสวิตซ์ด้านหน้าแช่ไว้ 2 – 3 วินาที ปั้มน้ำก็จะทำงานและเดินเข้าไปในตู้อุโมงค์ท่ามกลางหมอกควันไอน้ำที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดประสิทธิภาพสูง โดยราคารวมเบ็ดเสร็จประมาณตู้ละไม่เกิน 5,000 บาท”

สำหรับน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอาตมาได้ปรึกษากับแพทย์ รพ.สต.ในพื้นที่และบริษัทใหญ่ที่ผลิตตู้แบบเดียวกันจำหน่าย จึงได้น้ำยาฆ่าเชื้อ “เดทตอล” ชนิดที่ไม่เป็นโทษกับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายและสามารถฆ่าเชื้อโรคตายในทันที 99.9 เปอร์เซ็นต์ และไม่สิ้นเปลื้องน้ำยาขวดหนึ่ง 750 มล.นำมาผสมน้ำเป็น 100 ลิตร  โดยบริษัทใหญ่ที่ผลิตตู้อุโมงค์พ่นฆ่าเชื้อจำหน่ายก็ใช้น้ำยาแบบเดียวกัน ซึ่งอาตมาอยากจะผลิตตู้อุโมงค์ฆ่าเชื้อให้กับทุกหน่วยงาน ที่ในขณะนี้มีกระแสความต้องการสูงมาก แต่วัดคงคาเลียบเป็นวัดเล็กในชนบทไม่มีงบประมาณเพียงพอ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ตั้งใจ อย่างไรก็ตามตู้อุโมงค์ที่ผลิตนำไปติดตั้งตามจุดต่าง ๆ มาแล้ว 10 จุด บางจุดมีการบริจาคเงินสนับสนุนมาจำนวนหนึ่งนำมาต่อยอดผลิตตู้อุโมงค์พ่นฆ่าเชื้อเพิ่มเติมต่อไป