ผู้เสียหายจากเงินกู้นอกระบบ กว่า 10 ราย รวมตัวยื่นหนังสือต่อตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีผู้เสียหายจากปัญหาหนี้นอกระบบ ที่นำที่ดินไปจำนองกับนายทุน หลังมีการชดใช้หนี้สินไปให้นายทุนกลับไม่ได้โฉนดที่ดินที่นำไปค้ำประกัน ไม่ได้คืน ผู้เสียหายกว่า  200 ราย เงินที่สูญไปกว่าพันล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ผู้เสียหายจากเงินกู้นอกระบบ กว่า 10 ราย ในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก และ อ.นครไทย นำโดย นางนภัสวรรณ  อินมลเฑียร ได้เดินไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้ช่วยติดตามและเร่งรัดคดีที่นำที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่เมื่อนำเงินไปใช้หนี้พร้อมขอไถ่ถอนคืนโฉนดกลับถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมนำโฉนดที่ดินมาคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งรวมเป็นเงินที่มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา และได้แจ้งความไว้กับตำรวจรวมทั้งยื่นเรื่องให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ช่วยดำเนินการช่วยเหลือแล้ว แต่กลับพบว่ามีการล่าช้าในการสอบปากคำผู้เสียหาย ทำให้สำนวนในการส่งให้อัยการ นำไปฟ้องต่อศาลนั้นเป็นไปอย่างล่าช้าผิดปกติ จึงต้องรวมตัวกันมายื่นเรื่องร้องเรียน เพื่อให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้ช่วยเหลือเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวนโดยเร็วที่สุด

นางนภัสวรรณ  อินมลเทียร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เรื่องนี้ ตนและผู้เสียหายจากการกู้เงินนอกระบบจากนายทุนรายหนึ่งในเมืองพิษณุโลก เพื่อต้องการนำเงินไปทำธุรกิจ โดยนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกัน แต่หลังจากนำเงินไปคืนนายทุนจนหมด ก็ไม่ได้โฉนดที่ดินคืน ต่อมาในปี 2561 ตนและผู้เสียหายทั้งหมด ได้ไปยื่นเรื่องต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ให้ช่วยเร่งรัดดำเนินคดี ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ก็ได้กำชับพนักงานสอบสวนไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทำไมสำนวนก็ยังไม่คืบหน้า ไม่สามารถนำสำนวนส่งอัยการ เพื่อส่งต่อศาลในการฟ้องร้องคดีต่อไปได้ โดยเมื่อสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้แต่เพียงคำตอบว่า ยังสอบผู้เสียหายไม่เสร็จ ทั้ง 40 ราย โดยสอบไปแล้ว 38 ราย ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่ามีปัญหาหรือติดขัดตรงไหน ถึงไม่สามารถส่งสำนวนต่ออัยการได้ ตนเองและผู้เสียหายทั้งหมด อยากให้เรื่องถึงขั้นตอนของศาลโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ศาลได้ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหายต่อไป

เบื้องต้น พ.ต.อ.กิตติพงษ์  สุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เป็นตัวแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกรับหนังสือร้องเรียนไว้ และเชิญผู้ร้องเข้าร่วมหารือในห้องประชุมชั้น 3  ก่อนนำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และรับปากกับกลุ่มผู้ร้องว่า จะกำชับและติดตามในการทำสำนวนของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้เร่งส่งสำนวนต่ออัยการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วันอย่างแน่นอน