รวมหนุ่มลอบขนยางพาราจากประเทศเพื่อนบ้านอ้างแค่รับจ้างขนให้กับนายทุนใหญ่ ทำมาหลายครั้งแล้วแต่หนีไม่พ้นสายตาของตำรวจตระเวนชายแดนถูกจับพร้อมของกลางมูลค่าหลายแสนบาท

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า พ.ต.ต.อัครพล  ฤทธิ์เลื่อน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 347 ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก รับแจ้งจากชาวบ้านมีการลักลอบขนยางพาราแผ่นจำนวนมากขนจากชายแดนในฝั่งประเทศเมียนมา ขนเข้าฝั่งไทย บริเวณบ้านแม่กลองคี หมู่ที่ 3 ต.โมรโกร อ.อุ้มผาง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยอาวุธครบมือจำนวน 1 ชุด เดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวและวางกำลังตามจุดรับแจ้ง ขณะที่นำกำลังเดินทางเข้าไปยังพื้นที่พบรถยนต์กระบะมีคอกยี่ห้ออีซูซุ ดีแมค สีขาว ตอนเดียว ทะเบียน บน 5240 ตาก กำลังขับออกมาจากข้างทางเพื่อมุ่งหน้าไปทางอำเภอแม่สอด

เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามและแจ้งให้หยุดรถ พร้อมกับแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นพบยางพาราแผ่นจำนวนมากอยู่ท้ายกระบะรถ โดยมี อภิเดช  บัวหลวง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ที่ 5 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นคนขับรถ จึงขอให้แสดงใบเสียภาษีหรือใบอนุญาตนำเข้าของศุลกากร แต่นายอภิเดชไม่มีแสดงประกอบการขนส่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่กองร้อย ตชด.347 จากตรวจที่กระบะรถคันดังกล่าวพบยางแผ่นรมควันทั้งหมด 75 แพ๊ค น้ำหนักรวม 3,485 กิโลกรัม มีมูลค่าหลายแสนบาท

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอภิเดช ทราบว่า ช่วงกลางคืนจะไปรับยางพาราจากรถชาวเมียนมา ที่ลักลอบขนเข้ามีรออยู่ที่ช่องทางธรรมชาติบ้านมอร์คี แม่กลองคี ห่างจากถนนทางหลวงแม่สอด – อุ้มผาง ประมาณ 20 กิโลเมตร แล้วขนใส่รถยนต์ของตนจนเต็มคัน พอใกล้รุ่งสางก็จะขับออกมาบนถนนหลวงเพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้า แต่ไปไม่รอดมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน ส่วนยางพาราทั้งหมดเป็นของนายทุนที่ซื้อกับผู้ขายที่อยู่ทางฝั่งเมียนมา ตนเป็นเพียงคนรับจ้างขับรถขนส่งเท่านั้น และทำมาหลายครั้งเเล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา กระทำความผิดตาม พรบ.ศุลกากร มาตรา 242, 246, และ 252 ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ อุ้มผาง เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และทำบันทึกขอนำของกลางส่งให้ศุลกากรจัดเก็บ