รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก มทบ.35 ตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส โควิด-19 ไปแล้วกว่า 1,800 ราย พบผู้ติดเชื้อกว่า 30 ราย และให้บริการฉีดวัคซีนไปกว่า 2,000 ราย

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19  พ.อ.สมัย  ขำพันธ์ ผอ.รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก  กล่าวถึงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในห้วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เกิดการระบาดที่หนัก และรุนแรงกว่าเดิม ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง โดยมอบให้ พ.ท.สรารักษ์  ชูสกุล รอง.ผอ.รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก แพทย์ พยาบาล ตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส โควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ดูแลประชาชน

พ.อ.สมัย  ขำพันธ์ ผอ.รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก  กล่าวว่า โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ได้ให้การสนับสนุนการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR และได้มีการปฏิบัติการตรวจเชิงรุก หรือ Active case finding ให้กับประชาชนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันจากคลัสเตอร์ต่าง ๆ อาทิ เช่น คลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้าง คลัสเตอร์คลินิกทันตกรรม คลัสเตอร์สถานศึกษา เปิดจุดบริการการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส COVID-19 ให้กับประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งให้บริการตรวจคัดกรองในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ Delivery ตลอดจนตรวจคัดกรองให้กับผู้ต้องขังภายในเรือนจำ และทหารกองประจำการ ผลัด 1/2564  ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส COVID-19 ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 1,800 ราย โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 กว่า 30 ราย

“มีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการ การติดเชื้อไวรัส COVID-19 คลัสเตอร์หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 35 วางแผน ดูแลรักษากำลังพลที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ได้รับเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ตรวจคัดเลือกทหารที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อในคลัสเตอร์ดังกล่าวรวม 19 ราย อีกทั้งยังมีการรับการส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มีอาการดีขึ้น และผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ แต่ไม่รุนแรง จากโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ อีก 22 ราย รวมทั้งหมด 41 ราย มารักษาต่อที่ COHORT WARD เพื่อลดความแออัดและ เพื่อให้โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ มีจำนวนเตียงเพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักต่อไป” พ.อ.สมัย  ขำพันธ์ ผอ.รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก กล่าว

ทั้งนี้ยังมีการจัดตั้งจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน โดยบริการฉีดซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และประชาชนทั่วไป โดยบริการฉีดวัคซีน Sinovac,  Astra-Zeneca และวัคซีนทางเลือก Sinopharm ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. รวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ราย เราจะไม่หยุดพัก จะสู้จนกว่าโควิด-19 ในประเทศจะเป็นศูนย์ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน ปฏิบัติภารกิจภายใต้เจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบก “ปกป้องประชา” ในการดูแลประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ข่าว  :  ประสิทธิ์  ผึ้งสุข