ชวนชมสวนอินทผาลัมแสงจันทร์ฟาร์มเวลเนสทัวร์ริซึ่ม

พ่อเมืองสองแควพร้อมสภาท่องเที่ยวอุตสาหกรรม จ.พิษณุโลก สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.พิษณุโลก เยี่ยมชมสวนอินทผาลัมแสงจันทร์ฟาร์ม ของ “ลุงตู้” ชาวสวนบ้านหอกลอง ที่ประสบความสำเร็จในการทำสวน อินทผาลัม ที่พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกอินทผาลัม เพื่อหนุนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือเวลเนสทัวร์ริซึ่ม
วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ที่สวนอินทผาลัมแสงจันทร์ฟาร์ม หมู่ที่ 1 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ชุ่มแจ่ม นายอำเภอพรหมพิราม นางศศิวัณย์ ศรีพรหม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.พิษณุโลก และนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.พิษณุโลก รวมทั้งสมาชิก เยี่ยมชมความสำเร็จชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรและสุขภาพนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ สวนแสงจันทร์ฟาร์ม ของ นายสมชาย แสงจันทร์ หรือลุงตู้ ในโอกาสนี้ ผวจ.พิษณุโลก ได้เปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้การปลูกอินทผาลัมนอกถิ่น ให้กับสวนแสงจันทร์ฟาร์มด้วย ทั้งนี้เนื่องจากสวนอินทผลัมแสงจันทร์ฟาร์มได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP เพื่อพัฒนาไปสู่เกษตรอัจฉริยะ สำหรับอินทผาลัมจัดเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งที่หลากหลายสายพันธุ์ เป็นพืชที่สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีในเขตที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งเป็นผลไม้ยอดฮิตสำหรับยุคนี้ ประเทศไทยได้นำอินทผาลัมมาปลูกหลายพื้นที่แต่ผู้บริโภคก็ยังสามารถซื้อรับประทานได้เพราะผลผลิตมีน้อยตลาดที่รับส่วนใหญ่จะเป็นตลาดบนตามห้างสรรพสินค้าและผู้บริโภคที่มาสั่งจองถึงสวนอินทผาลัมมีคุณประโยชน์หลายประการเช่นเป็นผลไม้ที่ไม่มีคอเลสเตอรอลไขมันต่ำอุดมไปด้วยวิตามิน B 1, B 2, B 3, A 1 และ E มีไฟเบอร์สูง บำรุงกระดูกฟันและช่วยให้กระเพาะอาหารแข็งแรง



จากนั้น นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก ได้ลงมือทำสมู้ทตี้อินทผลัม สัดส่วนใช้อินทผลัม สายพันธุ์ บาร์ฮี จำนวน 300 กรัม นมพร่องมันเนย 600 มิลลิลิตร และเกลือชมพูบิด 4 รอบ นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นรวมกันจนเนื้อละเอียด เทใส่แก้ว ดื่มเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่รสชาติอร่อย ความหวานกำลังจากผลอินทผลัม แจกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน เป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้ที่ได้รับประทาน รับประกันความอร่อยของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่จังหวัดพิษณุโลกมีสวนอินทผาลัมที่ครบวงจร และมีผู้ที่มีความรู้สามารถสอนให้การเรียนรู้การปลูกอินทผาลัมแก่คนที่สนใจ และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด ทำให้สร้างรายได้ดึงเม็ดเงินเข้าจังหวัด โดยผู้ที่สนใจสามารถมาท่องเที่ยวและชิมอินทผาลัมของสวนอินทผาลัมแสงจันทร์ฟาร์ม หรือจะมาเรียนรู้การปลูกเป็นอาชีพได้



ด้าน นายสมชาย แสงจันทร์ หรือลุงตู้ กล่าวว่า พื้นที่ปลูกที่สวนตอนนี้มีพื้นที่ 22 ไร่ ปลูกต้นอินทผลัม 333 ต้น เป็นตัวเมีย 290 ต้น ตัวผู้ 43 ต้น มีกว่า 20 สายพันธุ์ ตนเรียนรู้การปลูกมาจากคูเวต เมื่อกลับมาจึงปรับพื้นที่ จากเดิมที่เคยปลูกมะขามฝักใหญ่ แต่ประสบปัญหาศัตรูพืชและเชื้อรา จึงหันมาปลูกอินทผลัม เมื่อ 8 ปีก่อน จนประสบความสำเร็จเป็นพืชเศรษฐกิจ ปัจจุบันอินผลัมของตนเอง ได้ส่งขายตามร้านท็อปซุปเปอร์มาเก็ต และตลาดในจังหวัดพิษณุโลก บางครั้งลูกค้าก็มาซื้อถึงสวน ขายในราคากิโลกรัมละ 400 บาท ขึ้นไป ปีหนึ่งสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และการที่สวนอินทผาลัมแสงจันทร์ฟาร์ม เป็นศูนย์เทคโนโลยีถ่ายทอดการปลูกอินทผาลัม ก็พร้อมให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจและจะพัฒนาอินทผาลัมอย่างต่อเนื่องต่อไป




ขณะที่ นางศศิวัณย์ ศรีพรหม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก และ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ได้เข้ามาสนับสนุนให้สวนอินทผาลัม แสงจันทร์ฟาร์ม บ้านหอกลอง หรือสวนวิสาหกิจชุมชนบ้านหอกลอง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเคียงคู่เมืองพิษณุโลก เพราะอยู่ไม่ไกลจากเขต อ.เมืองพิษณุโลก เพียงแค่ประมาณ 10 กม. เท่านั้น อีกทั้งสอกคล้องกับนโยบายของสมาคมในการสนับหนุนให้จังหวัดพิษณุโลกเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่เรียกว่าเวลเนสฮับ เวลเนสทัวร์ริสซึ่ม หรือศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพแบบครบวงจร ซึ่งสวนแสงจันทร์ฟาร์ม ก็สอดรับกับนโยบายของสมาคมฯจึงได้เข้ามาส่งเสริม สำหรับผู้ที่สนใจจะไปเที่ยวชมหรือเลือกซื้ออินทผลัม สามารถเดินทางไปที่สวนอินทผลัมแสงจันทร์ฟาร์มได้ทุกวัน ส่วนผู้ที่ต้องการเรียนรู้สามารถติดต่อสอบถามขอคำแนะนำได้ทางโทรศัพท์หมายเลขโทรศัพท์ 080-0616655 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 12.00 น.




