DCIM\101MEDIA\DJI_0110.JPG

ระดับน้ำในแม่น้ำยมทั้งสองสายเพิ่มขึ้นหลังมีการระบายน้ำออกจาก จ.สุโขทัย ส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นเข้าทุ่งบางระกำโมเดลต่อเนื่อง ระดับน้ำที่ไหลผ่านตัวอำเภอบางระกำเริ่มวิกฤตเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำโดยผลักดันที่บริเวณสะพานวังเป็ด ขณะที่แม่น้ำวังทองพ่นพิษเอ่อล้นท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนประชาชนแล้ว ชลประทานแจ้งเตือนประชาชนริมตลิ่งในที่ลุ่มเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 25 กันยายน นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า เนื่องด้วยปริมาณน้ำในแม่น้ำยมสายหลัก และแม่น้ำยมสายเก่า มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากมีฝนตกในพื้นที่เหนือ ปตร.หาดสะพานจันทร์ ในเขต อ.วังชิ้น จ.แพร่ และ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และได้รับการประสานจากทางโครงการชลประทานสุโขทัย มีแผนที่จะบริหารจัดการน้ำและผันน้ำ ดังนี้ ระบายน้ำจากแม่น้ำยม เหนือ ปตร.หาดสะพานจันทร์ เข้าคลองหกบาท 177 ลบ.ม/วินาที โดยระบายน้ำเข้าคลองยม-น่าน 111 ลบ.ม/วินาที และ ระบายน้ำเข้าแม่น้ำยมสายเก่า 66 ลบ.ม/วินาที ระบายน้ำลงท้าย ปตร.หาดสะพานจันทร์ ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก 485.50 ลบ.ม/วินาที ยกบานระบาย ปตร.ยางซ้าย อ.เมือง และ ปตร.วังสะตือ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เพื่อพร่องน้ำ แม่น้ำยม ด้านหน้าประตูระบายน้ำ

สำหรับการบริหารแม่น้ำยม ในเขต จ.พิษณุโลก ปัจจุบัน แม่น้ำยมสายหลัก ที่สถานีวัดน้ำ Y.64 อ.บางระกำ ระดับน้ำ 6.42 ม. เริ่มสูงกว่าตลิ่งเรื่อยถือว่าอยู่ในระดับวิกฤตแล้ว โดยอัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 355.20 ลบ.ม/วินาที) ส่วนที่ ปตร.บางแก้ว อ.บางระกำ ระดับน้ำเหนือ ปตร. 40.71 ม.(รทก.) น้ำล้นระดับ Spillway สูง 0.91 ม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสายหลัก อ.บางระกำ และ แม่น้ำสายเก่า-คลองเมม-คลองบางแก้ว อ.พรหมพิราม และ อ.บางระกำ ยังคงมีระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและอาจเอ่อล้นตลิ่ง จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง แม่น้ำยม และ คลองเมม-คลองบางแก้ว ให้เตรียมการขนของขึ้นที่สูง และ ติดตามข่าวสาร สถานการณ์น้ำสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิดจากทางหน่วยราชการ ขณะเดียวกันทางชลประทานได้บริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยมเพื่อป้องกันน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจของ อ.บางระกำ โดยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่บริเวณสะพานบ้านวังเป็ด ต.บางระกำ ด้วย

ด้าน นายบุญเหลือ  บารมี นายอำเภอวังทอง เปิดเผยว่า ระดับแม่น้ำแคววังทองที่บ้านท่าข้าม ต วังนกแอ่น เมื่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกันนี้ วัดได้ 4.0 ม.เลยจุดวิกฤติแล้ว มวลน้ำกำลังไหลลงสู่เขตพื้นที่ราบบางส่วนของ หมู่ 2 ต วังนกแอ่น หมู่ 2, 3, 4, 5, 7 และหมู่ 9 ต.ชัยนาม หมู่ 3 ต.วังทอง ต.วังพิกุล ต.แม่ระกา และกำลังไหลเข้าเขตพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม ตามลำดับ ซึ่งทางอำเภอได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการฯ  เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนเรียบร้อยแล้ว และได้ร่วมกับทหารกองพลพัฒนาที่ 3 ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ เทศบาลตำบลวังทอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันกรอกทรายใส่กระสอบเพื่อวางกั้นแนวตลิ่งที่ต่ำบริเวณตลาด 120 ปี เทศบาลตำบลวังทอง รวมทั้งอุดตามท่อระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อป้องกันน้ำในแม่น้ำวังทองเอ่อล้นท่วมเขตพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอวังทอง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาอีกว่าที่ ต.บ้านมุง และ ต.วังยาง อ.เนินมะปราง ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาจากเขาผ่านทางน้ำตกขุนห้วยเทินจำนวนมากแล้วเช่นกัน โดยมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนประชาชนในหมู่ 1 บ้านมุง ต.บ้านมุง และ ต.วังยาง บางส่วน รวมทั้งที่หมู่ 2 บ้านน้ำปาด ต.ชมพู น้ำป่าที่ไหลหลากลงมาจากเขารักไทย ได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 10 หลังคาเรือน จนต้องอพยพออกมาอาศัยกันอยู่ที่ศูนย์พักพิงวัดชมพู โดยมี นางเนาวรัตน์  เอกภาพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับนายอำเภอเนินมะปราง และชุดช่วยเหลือประชาชนจากมณฑลทหารบกที่ 39 กองทัพภาคที่ 3 เดินทางเข้าไปช่วยเหลือประชาชนเป็นการเบื้องต้นแล้ว