ชาวนาจำใจเกี่ยวข้าวหนีน้ำหวั่นพายุระลอกใหม่

ชาวนาเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วม หลังฝนตกหนักติดต่อกัน น้ำไม่สามารถระบายลงคลองได้ เพราะน้ำสุโขทัยดันสูง ชลประทานปิดประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ทำให้นาข้าวกว่า 2 พันไร่ ถูกน้ำท่วมขังเสียหาย ยอมขายในราคาต่ำไม่ถึง 5,000 บาทต่อตัน
วันที่ 12 ตุลาคม 2564 หลังจากพื้นที่ จ.พิษณุโลก มีฝนตกหนักตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงวันนี้ ส่งผลให้ชาวนาในพื้นที่หมู่ 11 บ้านจูงนางนอก ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กว่า 20 ราย พื้นที่นาข้าวกว่า 2,000 ไร่ จำใจต้องเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วมขัง ถึงแม้ว่าข้าวจะยังไม่ถึงอายุเก็บเกี่ยวก็ตาม ยอมขาดทุนดีกว่าปล่อยนาข้าวจมน้ำแล้วไม่เหลืออะไรเลย โดย นายเมธาวี กาญจนเสน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ที่ 5 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนทำนาข้าวพันธุ์ กข.81 ไว้บนพื้นที่ 28 ไร่ เริ่มปลูกเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา มีกำหนดเก็บเกี่ยวในวันที่ 27 ตุลาคม 2564 แต่ช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา จ.พิษณุโลก มีฝนตกทำให้นาข้าวมีน้ำท่วมขังนาข้าวของตนและเพื่อนบ้านทั้งหมดกว่า 2,000 ไร่ เพราะน้ำไม่สามารถระบายลงคลองบางแก้วได้ เพราะกรมชลประทานปิดประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว เพราะปริมาณน้ำจากสุโขทัยที่หลากเข้าพื้นที่ อ.บางระกำ ยังคงท่วมสูง



นายเมธาวี เปิดเผยต่อว่า เมื่อวานนี้ได้ว่าจ้างรถแบ็คโฮ มาทำคันกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 เครื่องเพื่อระบายน้ำออกจากนา หวังจะยืดอายุต้นข้าวให้ถึงช่วงเก็บเกี่ยว แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงวันนี้ยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้แนวคันดินพังเครื่องสูบน้ำจมน้ำ คาดว่าจากอิทธิพลพายุคมปาซุ และกลัวพายุอีก 2 ลูกที่จะเข้ามาสมทบด้วย จึงต้องว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวเข้ามาเก็บเกี่ยวก่อนกำหนด ดีกว่าปล่อยทิ้งให้จมน้ำ ส่วนข้าวที่เกี่ยวได้ก็เป็นข้าวคุณภาพต่ำ ความชื้นจะสูงเนื่องจากเกี่ยวก่อนกำหนด ก็คงจะต้องถูกตัดราคา ไม่น่าถึงตันละ 5,000 บาท ก็ต้องยอม ขอเกี่ยวข้าวถอนทุนคืน ยังดีกว่านาข้าวเสียหายไปทั้งหมด ไม่ได้อะไรเลย




