มณฑลทหารบกที่ 34 และทุกภาคส่วน ร่วมใจกำจัดผักตบชวาในกว๊านพะเยา

“กว๊านพะเยา” เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีพื้นที่มากถึง 12,831 ไร่ เป็นพื้นที่แก้มลิงที่สำคัญ อีกทั้งแต่ละปีมีปริมาณน้ำไหลลงกว๊านพะเยา ประมาณ 330 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3 ได้เผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำที่มีความสำคัญ ต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา ทั้งด้านการอุปโภค บริโภค และด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว แต่เนื่องจากปัจจุบันกว๊านพะเยา ประสบปัญหาการขยายตัวของผักตบชวา และวัชพืช ขวางทางน้ำไหล ทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม ครั้นเมื่อถึงฤดูฝน มีปริมาณน้ำมากมักเกิดปัญหาอุทกภัย เนื่องจากวัชพืชอุดตันทางระบายน้ำ แต่ในฤดูแล้ง น้ำไม่พอใช้ ทั้งการอุปโภค บริโภค และการทำเกษตร

จากการสำรวจพบว่า ปริมาณผักตบชวาในพื้นที่กว๊านพะเยา มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และเจริญเติบโตแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและภูมิทัศน์ของกว๊านพะเยา ผู้ว่าราชการาชการจังหวัดพะเยา/ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพะเยา จึงมีคำสั่งให้หน่วยงานในจังหวัดพะเยา บูรณาการร่วมกัน ในการกำจัดผักตบชวาในกว๊านพะเยา ประจำปี 2564 มีระยะเวลาในการดำเนินการ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนธันวาคม 2564 โดยมีหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดพะเยาร่วมบูรณาการ ทั้งส่วนราชการ, ภาคเอกชน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม จำนวน 19 หน่วยงาน


ในการนี้ มณฑลทหารบกที่ 34 ได้จัดกำลังพล รวมทั้งยุทโธปกรณ์ ให้การสนับสนุนในการดำเนินการ ดังนี้ รถโกยตักสายพาน (Backhoe) จำนวน 1 คัน พร้อมพลขับ 1 นาย การปฏิบัติ : ขุดลอก, ตักขนย้ายผักตบชวา และจอกแหน หรือตามที่จังหวัดพะเยาประสานการปฏิบัติ รถบรรทุกแบบเทท้ายขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน พร้อมพลขับ 2 นาย การปฏิบัติ : ขนย้ายผักตบชวา และจอกแหน ไปกองรวมตามจุดต่างๆ ที่กำหนดไว้ หรือตามที่จังหวัดพะเยาประสานการปฏิบัติ รถบรรทุกแบบเทท้าย 6 ล้อ ได้ขนย้ายผักตบ และชวาจอกแหน ไปยังตำบลทิ้ง ณ ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จำนวน 122 เที่ยว เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมัก ใช้ในการเกษตร โดยจะนำไปใช้กับโครงการ “ทหารพันธุ์ดี” ต่อไป เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ พร้อมพลขับและกำลังพล จำนวน 7 นาย ร่วมกันเก็บกวาด, ผลัก, ดัน, ขนย้ายผักตบชวา และจอกแหน ช่วยประคองทุ่น ในการลากจูงผักตบชวา และจอกแหน และตรวจสำรวจทุ่นที่เสียหาย และลาดตระเวนดูพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องเมื่อได้รับการประสาน


จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมทั้งบูรณาการศักยภาพทางการทหารในทุก ๆ ด้านของกองทัพบก เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากวิกฤตทุกโอกาส