ตำรวจจับพ่อค้ายาเสพติด “ตุ้ย บ้านในญาติ” รอบที่สี่แล้ว

ตำรวจคอมมานโดบุกจับพ่อค้ายานรกอาชีพในสายเลือด ถูกจับ 3 รอบไม่เข็ดหลาบ ออกมาวางแผนขายยานรกใหม่อีกรอบทำตีเนียนผูกเปลนอนขายยาเสพติดในห้องน้ำที่เจาะช่องรูไว้ส่งยานรกและรับเงินจากลูกค้า แต่ไม่รอดถูกจับอีกเป็นรอบที่ 4
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21ธ.ค.2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.และ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรัตน์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ.นำกำลังตำรวจชุดคอมมานโด และ ตำรวจสืบสวน สภ.ท่าศาลา ทำการสืบสวนและติดตามจับกุม นายนรินทร์ ชนะสิทธิ์ อายุ 54ปี หรือฉายา “ตุ้ย บ้านในญาติ” อดีตพ่อค้ายาเสพติดตัวยงในพื้นที่ อ.ท่าศาลา หลังสืบทราบว่า นายนรินทร์ ที่เคยถูกตำรวจชุดคอมมานโดชุดเดียวกันจับกุมมาแล้วในรอบปีนี้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งที่ 3 จับกุมได้เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา หลังประกันตัวออกมาแล้วแอบบวชเป็นพระอยู่ที่สำนักสงฆ์วัดไสยป่าหมาก หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา แต่ยังแอบขายยาเสพติดในกุฏิอีก กระทั่งถูกจับได้คากุฏิพร้อมยาเสพติดจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้ขอประกันตัวออกมา ยังลักลอบจำหน่ายยาเสพติดทั้งยาบ้าและยาไอซ์ให้กับวัยรุ่นในพื้นที่อีก โดยไม่เข็ดหลาบ


ตำรวจชุดคอมมานโดจึงไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 11 ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยกระจายกำลังค้นหาในบ้านและรอบ ๆ บ้าน พบห้องน้ำหลังบ้านมีช่องโหว่ที่สามารถสอดมือเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดู เจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงเมื่อพบนายนรินทร์หรือตุ้ย นอนยิ้มแปล้อยู่บนเปลญวนในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและทำการควบคุมตัวไว้ ก่อนตรวจค้นภายในห้องน้ำเจอกล่องนมถั่วเหลืองยี่ห้อหนึ่ง 2 กล่อง บรรจุยาบ้าจำนวน 208 เม็ด และยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนักรวม 5.48 กรัม จึงจับกุมนายนรินทร์ หรือตุ้ย บ้านในญาติ อีกเป็นครั้งที่ 4 นำตัวไปตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง สอบสวนเบื้องต้น นายนรินทร์รับสารภาพว่าหลังประกันตัวครั้งที่ 3 ออกมา ก็คิดวางแผนขายยาเสพติดใหม่ในห้องน้ำหลังบ้านเพราะเลิกขายยาเสพติดไม่ได้แล้ว โดยเจาะช่องฝาพนังห้องน้ำเป็นช่องเล็ก ๆ ให้พอมือสอดเข้าไปได้ เพื่อให้ลูกค้ามาซื้อยาเสพติดจากตนที่จะนอนเปลขายในห้องน้ำ เพื่ออำพรางตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่รอดถูกจับกุมได้อีกเป็นครั้งที่ 4 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




