ไฟไหม้บ้านพ่อเฒ่าวัย 84 ปี หนีไม่ทันถูกไฟคลอกเสียชีวิต

เพลิงไหม้บ้านกลางดึก พ่อเฒ่าหนีออกจากบ้านไม่ทันถูกไฟคลอกเสียชีวิต ชาวบ้านใกล้เคียงต่อน้ำประปาช่วยกันฉีดน้ำและจะเข้าไปช่วยนำตัวออกจากบ้านหวังช่วยชีวิตแต่ไม่เป็นผลเนื่องจากไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ตำรวจคาดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ร.ต.ท.อิทธิพล มยุรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของประชาชน ริมถนนทางหลวงหมายเลข 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ หมู่ 8 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ และพนักงานดับเพลิงหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.สมอแข พร้อมด้วยรถน้ำดับเพลิงจำนวน 2 คัน ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 20/2 หมู่ 8 คุ้ม 3 ร่วมใจพัฒนา พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมุงด้วยสังกะสี เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงกำลังจะลามไปติดร้านคาร์แคร์ที่อยู่ใกล้กัน จนชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต้องช่วยกันลากสายยางช่วยกันฉีดน้ำสกัดต้นเพลิงเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยและพนักงานดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำภายในตัวบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงเริ่มสงบลง แต่พบว่าบริเวณประตูเหล็กยืดหน้าบ้านด้านในมีร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่ในสภาพทรุดนั่งอยู่ถูกไฟคลอกจนไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก ทราบชื่อต่อมา คือ นายจำเริญ แก่นนาคำ อายุ 84 ปี เจ้าของบ้าน กู้ภัยจึงนำร่างส่งให้แพทย์ชันสูตรศพที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร


จากการสอบถาม นายธีรพล ภูมิพยงค์ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 8 ต.สมอแข เพื่อนบ้านข้างเคียงผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึกขณะนอนอยู่ในบ้านตนเองได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงตะโกนเรียกพี่สาว พอออกมาดูก็พบว่าเพลิงกำลังไหม้บ้านของนายจำเริญอย่างหนัก จึงรีบไปบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันดับไฟและโทรศัพท์แจ้งพนักงานดับเพลิง อบต.สมอแข ซึ่งข้างในบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัยอยู่แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นเช่นไร เพลิงไหม้อยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จนเจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงสงบลง จนมาทราบภายหลังว่านายจำเริญเจ้าของบ้านซึ่งปกติแล้วผู้เสียชีวิตจะพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง มักเดินออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่สามารถหนีออกมาได้และถูกไฟคลอกตายในกองเพลิงอย่างน่าสลดใจ


ด้าน นายนิติวัช ดอนตุ้มไพร พนักงานดับเพลิง อบต.สมอแข เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้หลังจากตนเองได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้จากชาวบ้าน จึงพร้อมด้วยพนักงานดับเพลิงนำรถน้ำจำนวน 2 คัน เดินทางมาที่เกิดเหตุเนื่องจากอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่เนื่องจากเพลิงไหม้อย่างรุนแรงและภายในบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะเจ้าของบ้านเคยเปิดร้านซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ แต่เลิกทำไปนานแล้ว ซึ่งโครงหลังคาบ้านก็ทำจากไม้ด้วยจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี พยายามฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้เหลือเพียงกลุ่มควันไฟ เมื่อตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวก็พบศพเจ้าของบ้านอยู่บริเวณประตูเหล็กเลื่อน คาดว่าน่าจะพยายามเปิดประตูเพื่อหนีออกมาแต่ก็ไม่สามารถออกมาได้ ส่วนครอบครัวจะพักอาศัยอยู่อีกหลังหนึ่ง ลูก ๆ หลาน ๆ และญาติ เคยบอกให้ไปอยู่ด้วยกันแล้วแต่ก็ไม่ยอม ยืนยันว่าจะขอพักอาศัยที่บ้านหลังนี้จนมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่เสียหายมากนัก จึงจะได้ประสานตำรวจกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนศพของผู้เสียชีวิตจะมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ขอบคุณภาพ : สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ