รวบคนร้ายก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ ในพื้นที่เมืองพิษณุโลก

ตำรวจชุดสืบสวนเมืองพิษณุโลก จับกุมคนร้ายวัย 19 ปี ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่ 9 แห่ง ทั้งหอพัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แม้กระทั่งศาลพระพิฆเนศก็ไม่เว้น ได้ทรัพย์สินหลายรายการนำเงินไปเที่ยวและดื่มสุรา
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ม.ค.2565 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ควบคุมตัว นายอนุสรณ์ หรือเก่ง สุขดี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/3 หมู่ 10 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านส้มตำน้ำแตก ถนนไชยานุภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก หลังก่อเหตุงัดบานประตูเมทัลชีทของร้านเข้าไปเพื่อลักทรัพย์ถึง 2 วันติดต่อกัน ได้เงินสดไป 2,000 บาท และยังนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดอื่น ๆ อีก โดยก่อนหน้านี้ช่วงตั้งแต่เดือน ธ.ค.2564 ถึงปัจจุบัน ได้มีเหตุคนร้ายตะเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์และลักทรัพย์สิน ตามบ้านเรือน ร้านค้า หอพัก ร้านกาแฟในพื้นที่จำนวนหลายราย สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก จึงได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดตามเส้นทางภายในพื้นที่เพื่อหาเบาะแสคนร้าย กระทั่งวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบเห็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 110ไอ สีน้ำตาล–ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 2853 พิษณุโลก ซึ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายไว้จอดอยู่บริเวณริมถนนประชาอุทิศ ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก จึงเฝ้าสังเกตในบริเวณใกล้เคียง พบชายมีลักษณะตำหนิรูปพรรณ การแต่งกายคล้ายผู้ก่อเหตุที่ผ่านมา นั่งดื่มสุราอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าไปสอบถาม ทราบชื่อภายหลังคือ นายอนุสรณ์ หรือ เก่ง สุขดี เบื้องต้นรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2565 เวลาประมาณ 04.00 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีแดง ทะเบียน ฉ 7480 อุทัยธานี ซึ่งเป็นรถที่ลักมาออกตระเวนลักทรัพย์ในพื้นเขต อ.เมืองพิษณุโลก

พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ จอดอยู่บริเวณข้างร้านร้านขายอาหารตามสั่งเสียบคากุญแจทิ้งไว้ เกิดความอยากได้เนื่องจากสภาพรถใหม่กว่ารถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขี่อยู่ จึงลักรถไปและจอดรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขี่มาก่อเหตุทิ้งไว้ นายอนุสรณ์ ให้การต่อว่า จากนั้นได้ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางที่ลักมาขับขี่ตระเวนลักทรัพย์ภายในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก จำนวนหลายแห่ง จนกระทั่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมด้วยของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” และนำควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ดำเนินคดี


พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า นอกจากนี้นายอนุสรณ์ได้ให้การรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่อีกจำนวน 9 ราย ดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2564 เวลาประมาณ 03.30 น. งัดตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้าที่อยู่ชั้นที่ 1 ภายในหอพักผกาวรรณ ถนนพญาเสือ ต.ในเมือง ได้เงินเหรียญบาทรวมกันประมาณ 800 บาท เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2564 เวลาประมาณ 21.00น. เอาคีมตัดเหล็กที่อยู่หน้าร้านกาแฟ รับเบอที เลขที่ 138/5 ถนนประชาอุทิศ ต.ในเมือง งัดตู้เงินที่อยู่หน้าร้านได้เงินสดไป 300 – 400 บาท เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2565 เวลาประมาณ 21.00 – 22.00 น. ลักตู้บริจาคภายในศาลพระพิฆเนศ หน้าวัดจันทร์ตะวันตก ได้เงินสดไปประมาณ 600 บาท เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เวลาประมาณ 04.00 น. ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนต้า รุ่นเวฟ สีน้ำตาลดำ ทะเบียน 1กฉ – 2853 พิษณุโลก ซึ่งได้คากุญแจอยู่ที่รถบริเวณบ้านเลขที่ 12/27 หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. ลักทรัพย์ภายในร้านกาแฟสตอรี่ คาเฟ่ หมู่ 10 ต.วัดจันทร์ โดยใช้ก้อนหินทุบผนังร้านเข้าไปลักของภายในร้านได้เงินสดไปประมาณ 350 บาท


เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เวลาประมาณ 05.00 น. ลักทรัพย์ร้านเรสคาบา ถนนสีหราชเดโชชัย ต.บ้านคลอง โดยใช้ก้อนหินทุบแผ่นประตูยิบซั่มฝั่งห้องครัวเข้าไป ได้โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ oppo สีน้ำเงิน 1 เครื่อง เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เวลาประมาณ 01.00 น. ลักทรัพย์ ร้านส้มตำน้ำแตก ถ.ไชยานุภาพ ต.ในเมือง โดยงัดบานประตูเมทัลชีท ของร้านเข้าไป ได้เงินเหรียญ และธนบัตรไทย รวมกันประมาณ 2,000 บาท เมื่อวันที่ 7 ม.ค. เวลาประมาณ 00.30 น. ได้งัดบานประตูเมทัล ร้านส้มตำน้ำแตก อีกครั้งเพื่อจะลักทรัพย์แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในร้านได้ เนื่องจากร้านทำประตูแน่นหนาขึ้นจากเดิม และเมื่อวันที่ 10 ม.ค.เวลาประมาณ 03.00 น. ลักทรัพย์ ร้านส้มตำไม่ทราบชื่อ ริมถนนสิงหวัฒน์ ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก โดยเข้าไปหยิบเงินเหรียญประมาณ 300 บาท ซึ่งตำรวจเชื่อว่ายังมีอีกหลายครั้งที่ได้ก่อเหตุ แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป




