วอนช่วยสร้างที่พักให้ครอบครัวยากจน

“แม่จ๋า” เจ้าของห้างผ้าใจบุญเมืองคอน สุดอึ้งชีวิตแม่พิการลูก 3 ขวบ สร้างเพิงพักซุกหัวนอนริมถนน สะท้อนภาพชีวิตในอดีตตัวเองกว่ามาได้ถึงทุกวันนี้ยิ่งกว่า “ ขอทาน”-ลั่นเตรียมสร้างบ้านใหม่ให้ได้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 25 ม.ค. 2565 ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งขอความช่วยเหลือครอบครัวพ่อ แม่และลูกวัย 3 ขวบที่มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่อย่างเวทนา โดยปลูกเพิงพักริมถนนซอยอินนิน ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา สิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “ แม่จ๋า ” เศรษฐีนีใจบุญ เจ้าของกิจการห้างผ้าโชคดี ถนนชมพูพล ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ประธานบริหารและเจ้าของโรงแรมปุระนคร และบริษัทในเครือ ซึ่งนำข้าวกล่อง น้ำดื่ม และสิ่งของเครื่องใช้จำนวนหนึ่งเดินทางไปเยี่ยมเพื่อหาทางช่วยเหลือ
โดยที่เพิงพักมีขนาดกว้าง 2 x 3 เมตร ทำด้วยไม้เก่า ๆ หลังคามุงกระเบื้องเก่า กั้นฝา 3 ด้าน ด้วยแผ่นไวนิล และถุงพลาสติกเก่า ๆ เพื่อกันแดดกันลมกันฝนอยู่ริมถนน พบ น.ส.ฐิติกานต์ เยียดพล อายุ 27 ปี สาวพิการตาบอด 1 ข้าง ร่างกายซูบผอมจนเล็กลีบจนผิดปกติ ขาไม่มีแรงเดินไม่คล่อง นั่งอยู่ในเพิกพักกับ ด.ญ. บุญรอด ลูกสาววัย 3 ขวบ ภายในเพิงพัก มีเพียงฟูกที่นอนเก่า ๆ 1 ผืน และเสื้อผ้าเก่า ๆ ทั้งที่กองและแขวนระเกะระกะรุงรัง ไม่มีห้องน้ำ ห้องส้วม ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา โดยต้องไปอาศัยบ้านเพื่อนบ้านใช้ ขณะที่สามีของ น.ส.ฐิติกานต์ ไม่อยู่บ้าน ออกตระเวนหาเก็บของเก่าไปขาย

น.ส.ฐิติกานต์ เล่าให้ฟังว่า เดิมตนมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในหมู่ 5 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมืองนครศรีธรรมราช พิการร่างกายเล็กลีบตาบอด 1 ข้าง ตั้งแต่กำเนิด ปัจจุบันพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่มีญาติ ไม่มีบ้านที่อยู่อาศัย จึงออกมาปลูกกระท่อมอาศัยอยู่ในพื้นที่คูเมืองฝั่งตรงข้ามเพิกพัก โดยมีซอยเล็ก ๆ ขนาดเท่าคนเดินลึกเข้าไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งเทศบาลอนุญาตให้ชาวบ้านปลูกที่อยู่อาศัยอยู่ได้ กระทั้งตนมาอยู่กินกับนายสมเกียรติ ขอสงวนนามสกุล) สามี ซึ่งเดิมมีภูมิลำเนาอยู่ จ.สงขลา จนมีลูก 1 คน คือ ด.ญ.บุญรอด อายุ 3 ขวบ นายสมเกียรติ สามียึดอาชีพตระเวนหาเก็บของเก่าขาย ตั้งแต่เช้าจะกลับมาที่พักช่วงค่ำ ๆ ต่อมากระท่อมที่อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามผุพังทั้งหลังคา ฝาผนังและไม้พื้นพังถล่มทรุดตัว เนื่องจากเป็นไม้เก่า ๆ ที่เก็บมาสร้างกระท่อม จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ จึงออกมาสร้างเพิกพังอยู่ริมถนน เพื่อรอสามีขายของเก่าขายเก็บเงินปรับปรุงซ่อมแซมกระท่อมหลังเดิมให้พออยู่อาศัยได้ อย่างไรก็ตามตนได้รับการดูแลช่วยเหลือ เรื่องสวัสดิการของรัฐ
อย่างไรก็ตามช่วงที่สามีออกตระเวนหาเก็บของเก่า ตนก็จะนำของเก่าที่สามีเก็บมาได้ เช่น เคสโทรศัพท์ รุ่นเก่า ๆ รองเท้าตกรุ่นที่ทางร้านโละทิ้ง ไปฝากขายในชุมชน เพื่อหารายได้เสริม แต่ก็มีคนแจ้งว่า ตนเป็นคนเร่ร่อน เป็นขอทานพาเด็กออกไปหากิน จนมีเจ้าหน้าที่ปกครอง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง สั่งห้ามหลายครั้ง ตนพยายามชี้แจงว่า ตนจำเป็นพาลูก 3 ขวบออกมาขายของเก่า ๆ ด้วย เพราะจะทิ้งให้เด็ก 3 ขวบ อยู่ที่เพิงพักคนเดียวไม่ได้ มันเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับฟังคำชี้แจง และสั่งห้ามตนนำน้องบุญรอด บุตรสาววัย 3 ขวบ ออกขายของอีก ที่สุดจึงไม่ออกไปขายของเก่า ๆ อีก เพราะหากออกไปต้องพาลูกไปด้วย กลัวโดนเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีได้ นายสมเกียรติ สามี จึงทำหน้าที่ต้องออกหาของเก่าขายหารายได้จุนเจือครอบครัวเพียงผู้เดียว

ขณะที่หญิงสาวเพื่อนบ้านคนหนึ่ง ที่คอยช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.ฐิติกานต์ นำ นางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “ แม่จ๋า ” และสื่อมวลชน เข้าดูกระท่อมหลังเก่าที่ปลูกบนที่ดินคูเมืองในซอยฝั่งตรงข้าม พบเป็นกระท่อมทำด้วยไม้เก่า ๆ มุงหลังสังกะสี กั้นด้วยแผ่นกระดานและแผ่นป้ายไวนิวเก่า ๆ พื้นกระท่อมก็ปูด้วยไม้กระดานเก่า ๆ เช่นกัน ทุกส่วนของกระท่อมผุพัง หัก ชำรุดทรุดโทรมจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ น.ส.ฐิติกานต์ ถึงกับนิ่งอึ้ง น้ำตาไหล และสะเทือนใจเป็นอย่างมาก จึงสัญญาว่าจะให้การช่วยเหลือในการปรับปรุงซ่อมแซมกระท่อมให้ใหม่ โดยจะเป็นสะพานบุญแจ้งแฟนเพจ “ Oampaphan Ninprapha ” และศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อระดมทุนปรับปรุงซ่อมแซมกระท่อมให้ครอบครัว น.ส.ฐิติกานต์ ให้สามารถย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย และจะเร่งดำเนินการให้อย่างเร่งด่วน
นางอัมพาพันธ์ หรือ แม่จ๋า กล่าวว่า ตนตั้งใจทำความดีให้กับสังคมคนบ้านเรา ทั้งช่วยเรื่องทุนการศึกษาเด็ก ซึ่งต้องใช้เงินประมาณเดือนละ 150,000 บาท และทำข้าวกล่องแจกจ่ายผู้ยากไร้ โดยทำต่อเนื่องมานานเกือบ 10 ปีแล้ว เพิ่งหยุดช่วงโควิด-19 เพราะเจ้าหน้าที่เกรงสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิดได้ สำหรับการช่วยปรับปรุงซ่อมแซมกระท่อมให้ครอบครัว น.ส.ฐิติกานต์ ตนตั้งใจจะทำให้โดยเร็ว แต่หากแฟนเพจ “ Oampaphan Ninprapha” หรือ ผู้ใจบุญที่ทราบข่าวทางสื่อสารมวลชน อยากจะร่วมทำบุญหรือสอบถามรายละเอียดผ่านทางเพจตนได้หรือโทร.093 – 6242297 หรือ คุณไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช โทร.081-6761299




