“บุญปลูก” นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพึ่งตนเองแจกไข่ 15,000 ฟองให้สมาชิก
พรรคเพื่อราษฎร ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 แถลงนโยบายพรรคชูนโยบายอัตตาหิ อัตตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน พร้อมเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พึ่งตนเอง” มีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 500 คน พร้อมลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคพึ่งตนเอง และแจกไข่แก่สมาชิกรวม 15,000 ฟอง
วันที่ 30 มกราคม 2565 ที่โรงแรมเมย์ฟลาเวอร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของพรรคเพื่อราษฎร โดยมี นายบุญปลูก เอนสาร หัวหน้าพรรคเป็นประธานในที่ประชุมพร้อมกับคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีสมาชิกของพรรคเข้าร่วมกว่า 500 คน โดยประเด็นหลักในการประชุมครั้งนี้คือ ทางพรรคเพื่อราษฎรได้แจ้งให้สมาชิกทราบว่า ทางพรรคมีการเปลี่ยนชื่อเป็น พรรคพึ่งตนเอง จึงต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ โดยการให้สมาชิกลงคะแนนแบบเข้าคูหาลงคะแนน จากนั้นคณะกรรมการเลือกตั้งได้รวบรวมผลคะแนน ปรากฏว่าสมาชิกได้เห็นชอบกับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคพึ่งตนเอง ที่ทางหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคราษฎรได้เลือกตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคพึ่งตนเอง ประกอบด้วย นายบุญปลูก เอนสาร หัวหน้าพรรค นายพัฐจักร เทพษร รองหัวหน้าพรรค คนที่ 1 นายวุฒิวิทย์ โสภา รองหัวหน้าพรรค คนที่ 2 พ.ต.อ.ดร.ธีร์รัฐ ทิพย์นพนนท์ เลขาธิการพรรค นายคณิน รูมะปาน รองเลขาธิการพรรค นายสรศักดิ์ เชื้ออินทร์ นายทะเบียนพรรค น.ส.พรรัตน์ ช่วยบำรุง เหรัญญิก น.ส.กุลณัฐฐา จิรจงพาณิชย์ โฆษกพรรค ดร.อาทิตย์ บุญญาภิสังขาร ผู้อำนวยการพรรค และนายวีรศักดิ์ ช่วยบำรุง กรรมการ จากนั้น นายบุญปลูก ซึ่งได้รับมติเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพึ่งตนเอง จึงได้กล่าวกับสมาชิกว่า จากนี้ไปจะดำเนินการตามนโยบายใหม่ที่ตั้งไว้ ก่อนที่หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการพรรคพึ่งตนเอง จะร่วมกันทอดไข่ ต้มไข่ และแจกไข่แก่สมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม โดยได้เตรียมไข่มาทั้งสิ้น 500 แพงหรือ 15,000 ฟอง
นายบุญปลูก เอนสาร หัวหน้าพรรคพึ่งตนเอง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การที่มีการปรับเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคพึ่งตนเอง เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการให้ประชาชนเข้าใจว่า อย่าหวังพึ่งนักการเมืองในปัจจุบันที่เมื่อเข้าไปก็มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ ไม่ได้มุ่งหวังที่จะช่วยเหลือประชาชน ดังนั้นเมื่อประชาชนเข้าใจว่าเราต้องพึ่งตนเอง ก็จะสอดรับกับนโยบายของพรรคที่ตั้งไว้ คือการสอนให้ประชาชนรู้จักทำมาหากิน มากกว่าที่จะรอคอยความช่วยเหลือหรือรอรัฐแจกจ่าย เราต้องพึ่งพาตนเอง นโยบายที่วางไว้จะมุ่งสร้างความรู้ สร้างเครื่องมือให้ประชาชนทำมาหากินพึ่งพาตนเองมากที่สุด เพราะถ้าประชาชนทำเองได้ ก็ไม่ต้องไปคอยพึ่งพานักการเมือง ส่วนการแจกไข่ในวันนี้ก็เป็นการสะท้อนความเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจทุกวันนี้ดังนั้นเมื่อทางพรรคช่วยเหลืออะไรเล็กน้อยได้ ก็จะช่วยเหลือสมาชิกให้บรรเทาความเดือดร้อนเหมือนที่แจกไข่ในวันนี้