ตำรวจเมืองสองแควแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์

ตำรวจเมืองตะครุบตัว “ไอ้ไฝ โจรขโมยรองเท้าสตั๊ด” จากสระบุรีมาดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ รบสารภาพขโมยรถกว่า 10 คันทั่วเมืองพิษณุโลกและในพื้นที่ จ.พิจิตร เหตุเจ้าของรถคากุญแจไว้ ทำให้ก่อเหตุได้สะดวก เปิดห้องพักรายวันหลับนอนไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ.2565 พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 มอบหมายให้ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.ก.6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทัศน์ มณสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสุพจน์หรือเอส สีเหลื่อมใส อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 หมู่ 7 ต.หัวนา อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีลักทรัพย์ที่บริเวณหน้า สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ รอง ผบช.ภ.6 กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือน พ.ค.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ทรัพย์สิน กระเป๋า และของมีค่าตามสถานที่ออกกำลังตามสวนสาธารณะในเขตพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก หลายครั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ และกล้องของทางราชการพบว่าคนร้ายเป็นชายอายุ ประมาณ 40 ปี ตัดผมสั้น รูปร่างสัดทัด มีจุดเด่นคือ มีไฝอยู่ที่บริเวณหน้าผากด้านขวา ชอบแต่งชายชุดกีฬา และเชื่อว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่มาก่อเหตุในเมืองพิษณุโลกและจังหวัดข้างเคียง โดยคนร้ายมักจะเปลี่ยนสถานที่พักอาศัยโรงแรมหรือห้องเช่ารายวัน โดยจะทิ้งทรัพย์สิน เช่น กระเป๋า บัตร เอกสารของผู้เสียหายไว้ และจอดรถจักรยานยนต์คันเก่าทิ้งไว้ แล้วลักคันใหม่ไปใช้แทนตลอด ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก สามารถติดตามตรวจยึดรถจักรยานยนต์และทรัพย์สินคืนผู้เสียหายได้จำนวนหลายราย ต่อมาทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายสุพจน์หรือเอส สีเหลื่อมใส จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับ จำนวน 3 หมายจับ


โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ.65 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งจาก น.ส.ชัชฎาภรณ์ จิตอนุกูล อายุ 25 ปี แม่ค้าออนไลน์ ผู้เสียหายว่า มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใครได้ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ฟิลาโน่ สีเทา ทะเบียน 1กฉ-8082 สุโขทัย ที่จอดอยู่หน้าร้านทอง ถ.เอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก และทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ ตำรวจจึงได้ไปที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวิดีโอวงจรปิดพบว่าคนร้ายมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับ นายสุพจน์หรือเอส สีเหลื่อมใส ผู้ต้องหาตามหมายจับ ประกอบกับเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีก็เป็นเส้นทางเดียวกัน


ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.65 ตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายหลบหนีเข้าพักที่โรงแรม The 24 Hotel ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก และ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จึงได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุพจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ88/2563 ลง 25 พ.ค.63 และที่ จ98/2563 ลง 9 มิ.ย.63 ในข้อหา “ลักทรัพย์” พร้อมด้วยหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ290/2562 ลง 16 ก.ย.62 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 2 คัน เครื่อง ipad เสื้อผ้า และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมทั้งกระเป๋าเสื้อผ้า ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุลักทรัพย์อีกหลายรายการ


ภายหลังการแถลงข่าว พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมชุดสืบสวนได้นำตัว นายสุพจน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หน้าร้านทอง ถ.เอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า คนร้ายได้เคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองพิษณุโลก รวม 8 คดี และพื้นที่อื่นหลายคดี เช่น อ.เมืองพิจิตร อ.เมืองร้อยเอ็ด อ.เมืองสิงห์บุรี อ.เมืองชัยภูมิ เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ข้างเคียง เพื่อขยายผลเพิ่มเติมต่อไป




