ตัวแทนเกษตรกร 2 ตำบล ในอำเภอพิชัย กว่า 50 คน รวมตัวขอความช่วยเหลือ “ศรัณย์วุฒิ” หน.พรรคเพื่อชาติ หลังข้าวนาปรังกว่า 2 หมื่นไร่ ได้รับผลกระทบปัญหาภัยแล้ง น้ำที่คลองน้ำไหลแห้งขอด

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่สะพานข้ามคลองน้ำไหล หมู่ที่ 8 ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ตัวแทนเกษตรกรทำนาปรัง รวมสองตำบล ประกอบไปด้วย ต.ท่ามะเฟืองและ ต.พญาแมน อ.พิชัย กว่า 50 คน รวมตัวขอความช่วยเหลือผ่าน นายศรัณย์วุฒิ  ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 2 เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังข้าวนาปรังกว่า 2 หมื่นไร่ ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง น้ำที่คลองน้ำไหล แห้งขอด ส่งผลน้ำไม่เพียงพอสูบหล่อเลี้ยงต้นข้าว ต่อมา นายศรัณย์วุฒิ  ศรัณย์เกตุ ได้ลงพื้นที่ติดตามและสอบถามถึงปัญหาความเดือนร้อนจาก นายทรงวุฒิ  ขำประดิษฐ์ นายก อบต.ท่ามะเฟือง และผู้นำ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานชลประทานที่ 3 จ.พิษณุโลก และ เจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดอุตรดิตถ์  ลงพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและวางแผนแก้ไขปัญหาระยะยาว หลังทราบว่าจุดดังกล่าวเกิดปัญหาซ้ำซาก ทั้งแล้งและน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก แต่ไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำหรือแก้มลิง

หลังลงพื้นที่ นายศรัณย์วุฒิ เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องน้ำ ที่ ต.ท่ามะเฟืองและ ต.พญาแมน นั้น  เบื้องต้นทางชลประทานดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 ตัว เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำน่านระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรใช้เวลากว่า 2 วัน ส่งมายังคลองน้ำไหล ควบคุมกับการสูบน้ำของสถานีสูบน้ำไฟฟ้าของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอ ส่วนระยะยาว ท้องถิ่นในพื้นที่เตรียมเสนอการจัดหาแหล่งเก็บกักน้ำในลักษณะแก้มลิง เก็บน้ำฝนช่วงน้ำหลากไว้ใช้ช่วงแล้ง

“ส่วนของพรรคเพื่อชาติ ให้ความสำคัญ และมีนโยบายน้ำแห่งชาติ ที่จะทำให้ได้จริง ๆ ทั้งภาคเหนือ และภาคอีสาน แต่ละพื้นที่การบริหารจัดการน้ำจะไม่เหมือนกัน เน้นการจัดเก็บน้ำฝนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เหตุทำไมรัฐบาลไม่ทุ่มเทงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้งและปัญหาน้ำท่วม อย่าพูดเพื่อสร้างภาพ หากพรรคเพื่อชาติเป็นรัฐบาล จะทำเรื่องน้ำแห่งชาติให้เร็วที่สุด ประชาชนต้องมีน้ำทำกินอุดมสมบูรณ์ เพราะสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ” นายศรัณย์วุฒิ  ศรัณย์เกตุ กล่าว

ข่าว  :  ประสิทธิ์  ผึ้งสุข