หนูน้อยบุญรอดได้บ้านใหม่แล้วและมีโอกาสเรียนถึงปริญญาตรีแน่นอน
“เจ๊จ๋า” เจ้าของห้างผ้าโชคดี เมืองคอนส่งมอบบ้านให้ครอบครัว “น้องบุญรอด” หนูน้อย 3 ขวบ กับแม่ผู้พิการ หลังจากมีผู้ใจบุญร่วมระดมทุนช่วยสร้างบ้านให้ใหม่ พร้อมรับอุปการะส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาตรี
วันที่ 19 ก.พ.2565 ที่ริมถนนในซอยอินนิน ถนนพัฒนาการคูขวาง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ ”เจ้จ๋า” เจ้าของกิจการห้างผ้าโชคดี ถนนชมภูพล ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายไพฑูรย์ อินทศิลา สื่อมวลชนอาวุโส พร้อมคณะ นายทามาส โรแบร์ด อาร์พัด กรูเบอร์ อายุ 61 ปี สัญชาติเยอรมัน หรือชาวสมุย เรียกว่า “ลุงเเซม” นักธุรกิจชาวเยอรมันที่เข้ามาทำธุรกิจอยู่ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และที่ปรึกษาสถานฑูตเยอรมันประจำประเทศไทย ได้ร่วมกันมอบบ้านให้ครอบครัวน้องบุญรอด หนูน้อย วัย 3 ขวบที่มีแม่คือ น.ส.ฐิติกานต์ เยียดพล หรือฝน อายุ 27 ปีพิการตาบอด 1 ข้าง หูหนวก 1 ข้าง และมีความบกพร่องทางสมอง ร่างกายเล็กลีบผิดปกติ สามีมีอาชีพเก็บของเก่าขาย อาศัยอยู่ในเพิงพะกริมถนนในซอยอินนิน ถนนพัฒนาการคูขวาง (33) ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
จนกระทั่ง นายไพฑูรย์ อินทศิลา สื่อมวลชนอาวุโส นางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ ”เจ้จ๋า” เจ้าของกิจการห้างผ้าโชคดี ถนนชมภูพล ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ระดมทุนสร้างบ้านใหม่ให้ และเจ้จ๋า ยังรับอุปการะส่งเสียน้องบุญรอดจนเรียนจบปริญญาตรีด้วย ซึ่งคณะของ นายทามาส โรแบร์ด อาร์พัด กรูเบอร์ หรือเรียกว่า “ลุงเเซม” โดยมีล่ามชาวไทยร่วมเดินทางมาด้วยได้มอบถุงยังชีพให้กับครอบครัวของน้องบุญรอด นอกจากนี้ยังมอบเงินสมทบทุนการก่อสร้างเพิ่มเติมจำนวน 6,100 บาท พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับทุกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่คูเมือง ซึ่งเป็นจุดที่ทางเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช อนุญาตให้สร้างที่พักอยู่อาศัยได้ โดยเทศบาลฯ ได้ออกบ้านเลขที่และสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้ตามความเหมาะสมด้วย
นายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการก่อสร้างบ้านให้ครอบครัวน้องบุญรอด กล่าวว่า หลังจากตนได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือครอบครัวของน้องบุญรอด จึงพร้อมด้วย นางอัมพาพันธ์ นิลประภา “เจ้จ๋า” เศรษฐินีใจบุญ เจ้าของห้างผ้าโชคดี เข้าไปตรวจสอบพบสภาพความเป็นอยู่น่าเวทนาสงสาร จึงตัดสินใจระดมทุนส่วนตัวและจากผู้ใจบุญช่วยสร้างบ้านใหม่ให้ ซึ่งเป็นบ้านเดิมที่ชำรุดผุพังจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ในเบื้องต้นใช้งบประมาณการก่อสร้างไปเกือบ 60,000 บาท เหลือในส่วนของห้องน้ำและฝาผนังซึ่งต้องใช้เงินอีก 6,100 บาท ทาง นายทามาส โรแบร์ด อาร์พัด กรูเบอร์ หรือ “ลุงเเซม” ได้บริจาคเงินในส่วนนี้สมทบเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จต่อไป
