ลุยพิสูจน์ถ้ำวัดเขาพระทองหลังชาวบ้านยืนยันพบ “พระพุทธรูปทองคำ”

พระภิกษุและฆราวาสบุกพิสูจน์ถ้ำมหาสมบัติวัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช หลังชาวบ้านยืนยันพบพระพุทธรูปทองคำถูกล่ามโซ่พร้อมแก้วแหวนเงินทองอยู่ภายในถ้ำจำนวนมาก แต่เมื่อกลับไปชวนพรรคพวกมาช่วยขนสมบัติกลับอันตรธานหายไปอย่างปริศนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทองพร้อมด้วยคณะของอาจารย์คะชาธร วะราณะธำรง โหรใหญ่ที่เดินทางมาจาก อ. เมือง จ.สมุทรสงคราม และลูกศิษย์วัดได้ประกอบพิธีขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่ เทพเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อขออนุญาตขึ้นไปบนยอดเขาพระทอง ค้นหาถ้ำที่เชื่อว่ามีพระพุทธรูปทองคำถูกลามโซ่ทองคำเอาไว้ จนเป็นที่มาของชื่อ “วัดเขาพระทอง” รวมทั้งมีทรัพย์สมบัติแก้ว แหวนเงินทองที่อยู่ภายในถ้ำจำนวนมาก ทั้งนี้หากเทพยดาฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาทรัพย์สมบัติอนุญาตให้พบ ก็จะนำพระพุทธรูปทองคำและทรัพย์สมบัติออกมาจากถ้ำ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาวัด บำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป

โดยหลังการประกอบพิธีขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่แล้วเสร็จ คณะประมาณ 10 คนได้เริ่มเดินขึ้นภูเขาซึ่งต้องปีนป่ายหน้าผา เถาวัลย์ อย่างยากลำบากจนสามารถขึ้นไปได้แค่ 5 คนประกอบด้วยพระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทองและลูกศิษย์วัดอีก 4 คนเท่านั้น และพบว่าที่กลางยอดภูเขามีถ้ำเล็ก ๆ คล้ายปล่องภูเขาไฟแต่มีหินน้อยใหญ่หล่นลงมาปิดทับทางเข้าจนเหลือช่องเล็ก ๆ พอที่จะเบี่ยงตัวลอดลงไปได้ คาดว่ามีลึกไม่น้อยกว่า 50 เมตร พระมหาอารยนันต์ และคณะลูกศิษย์วัดได้จุดธูปเทียนอธิฐานบวงสรวงและขออนุญาตลงไปในถ้ำ ก่อนจะปีนลงไปได้ช่วงหนึ่งพบว่าภูเขาสั่นสะเทือนจนหินพังถล่มลงมาในถ้ำ พระมหาอารยนันต์ และลูกศิษย์วัดเกรงว่าจะเกิดอันตรายได้ หากหินจะพังถล่มลงมาปิดทับทางเข้าและขังทั้งหมดไว้ในถ้ำอาจจะต้องมรณภาพและตายเป็นผีเฝ้าถ้ำเฝ้าสมบัติ

พระมหาอารยนันต์ และคณะจึงรีบปีนกลับขึ้นมาและใช้เชือกหญ้าคาถักหย่อนลงไปในถ้ำจนถึงก้นถ้ำแทน จากนั้นได้ต่อเชือกหญ้าคาลงไปด้านล่างผูกโยงกับหลวงพ่อองค์ใหญ่ และพระพุทธรูปทั้ง 29 องค์ รวมทั้งผูกโยงกับท้าวเวสสุวรรณ ศาลา “ตาหลวงเดช” ศาลาไอ้ไข่เด็กวัดเขาพระทอง และจุดสำคัญอื่น ๆ ทั่ววัด ซึ่งต่อไปเมื่อทางวัดจะประกอบสวดเจริญพระพุทธมนต์ สวดพุทธภิเษก หรือพิธีใด ๆ จะถือว่าเป็นการบวงสรวง ขอขมา ขออนุญาตเทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ามาเจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขาให้ช่วยเปิดวัดและพบพระพุทธรูปทองคำ ทรัพย์สมบัติภายในถ้ำเพื่อนำออกมาให้ผู้คนได้กราบไหว้สักการะบูชาและใช้ในการสร้างโบสถ์และเสนาสนะต่าง ๆ บำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ครบถ้วน 5,000 ปีสืบไป

พระมหาอารยนันต์ อานันโท กล่าวว่า อาตมาเป็นคนในพื้นที่แต่ได้ไปบวชเป็นสามเณรอยู่กับหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ตั้งแต่อายุ 14 ปี และบวชพระภิกษุมากว่า 25 พรรษา เมื่อกลับมาเยี่ยมบ้านและมากราบไหว้หลวงพ่อองค์ใหญ่ วัดเขาพระทอง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในละแวกนี้ พบว่าวัดเขาพระทองเป็นวัดร้าง จะตัดสินใจเดินทางมาจำพรรษาที่วัดเขาพระทองมาเกือบ 10 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่อาตมามาจำพรรษาพัฒนาวัดเขาพระทองให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางศาสนา ศิลปะวัฒนธรรมและธรรมชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองให้แล้วเสร็จ อาตมาพร้อมคณะสงฆ์และลูกศิษย์วัดเขาพระทอง และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งได้ออกเดินธุดงค์ธรรมยาตรา “กรุงเทพ มาหานคร”จากวัดพระแก้ว -วัดเขาพระทอง ระยะทาง 810.4 กม. ใช้เวลา 34 วัน ระหว่างวันที่ 3 มี.ค. -4 เม.ย. 2564 รวม 34 วัน มีชาวพุทธร่วมทำบุญ 2.9 ล้านบาท

และเริ่มลงมือก่อสร้างโบสถ์ โดยมีชาวพุทธจากทิศทั้ง 4 ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนกองทุนเสบียงบุญสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ ซึ่งตามกำหนดการในวันที่ 17 มี.ค. 2565 มีกำหนดประกอบพิธีสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง อย่างเป็นทางการโดยมีคุณโยมบิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ คู่แฝดนักบุญเมืองไทยเดินทางมาเป็นประธานในพิธี แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงจึงประกาศเลื่อนการประกอบพิธีออกไปก่อน และตัดสินใจนำคณะเดินทางขึ้นไปเสาะหาถ้ำมหาสมบัติบนยอดภูเขาพระทอง ตามที่มีตำนานเรื่องเล่าสืบต่อกันมาและชาวบ้านเคยไปพบเห็นจริง ๆ มาแล้วดังกล่าว