ชาวมุสลิมถือศีลอดในเดือนรอมฎอน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมพบปะให้กำลังใจ ในกิจกรรมละศีลอด ของพี่น้องมุสลิมที่มัสยิดกลางนครศรีธรรมราช
นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้ออกพบปะและร่วมกิจกรรมละศีลอดของพี่น้องมุสลิม ที่มัสยิดกลางนครศรีธรรมราช ต.นาเคียน อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมี นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. นางกนกพร เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช คุณจิมมี่ ชวาลา หัวหน้าส่วนราชการ อิหม่ามจากมัสยิดต่าง ๆ ทั่วจังหวัด และพี่น้องมุสลิมจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมในกิจกรรมละศีลอด เดือนรอมฏอน ประจำบีฮิจเราะย์ศักราช 1443 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้พี่น้องมุสลิมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมละศีลอดในเดือนรอมฏอนอันประเสริฐในปีนี้ ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกิจกรรมสำคัญทางศาสนา และละหมาดตารอเวียะห์ร่วมกัน เพื่อขอพรจากองค์อัลลอฮ์ ให้ประทานความสงบเรียบร้อย ความสมานฉันท์ให้แก่พี่น้องมุสลิม และความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดโรคติดต่อ โควิด-19 ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช มีประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 89,000 คน คิดเป็น 6 % ของประชากรทั้งหมดของจังหวัด มีมัสยิดที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 133 มัสยิด จาก 13 อำเภอ


โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบอิทผาลัม และกล่าวว่า การปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมนั้น เพื่อขัดเกลาร่างกายและจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ ยึดมั่นในการทำคุณงามความดีอันเป็นการสร้างกุศลอันแรงกล้าแก่ตนเอง รวมทั้ง ยังเป็นการน้อมจิตรำลึกถึงพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่ได้ประทานแก่พี่น้องชาวมุสลิมในช่วงเวลาสำคัญ ถึงแม้ว่าปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อาจส่งผลต่อการปฏิบัติศาสนกิจหลายประการ แต่การฝึกตนในช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ ย่อมจะขัดเกลาให้ทุกคนเป็นผู้ที่มีสติ มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธาอันสูงส่ง ช่วยทำให้จิตผู้ปฏิบัติ มีความบริสุทธิ์ และเบิกบานด้วยคุณงามความดี อันจะนำมาซึ่งประโยชน์และความสงบสุขต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติต่อไป


นายเกษม เจริญวงษ์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่า เดือนรอมฏอนเป็นเดือนที่สำคัญที่สุดเดือนหนึ่ง เป็นเดือนที่พระผู้เป็นเจ้า ได้บัญญัติให้มุสลิมทั่วโลกถือศีลอด ด้วยการงดอาหารทุกชนิด ตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนกระทั่งควงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เดือนรอมฏอนเป็นเดือนที่จูงใจให้ผู้ศรัทธาทำความดี เน้นการบริจาคทาน หัวใจจะจดจ่ออยู่กับการแสดงความเคารพภักดี ต่ออัลลอฮฺ เป็นเดือนแห่งการขัดเกลาจิตใจ ไม่กระทำสิ่งไร้สาระ ระมัดระวังทุกการกระทำและคำพูด มิเช่นนั้น ก็จะเป็นการถือศีลอดที่ได้แค่เพียงการอดอาหาร เท่านั้น รอมฏอนยังเป็นเดือนสุดประเสริฐ ที่มีการประทานพระมหาคัมภีร์อัล-กรูอานซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญชีวิตของมุสลิมทุกคน เป็นเดือนแห่งความเมตตา มุสลิมทุกคนจึงควรหมั่นทำความดีให้มาก และเมื่อสิ้นสุดเดือนรอมฏอนแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองในวันที่ 1 เดือนเชาวาลเรียกว่า อีดุลฟิฎริหรือ วันอีดเล็ก


สำหรับเดือนรอมฏอนถือได้ว่าเป็นเดือนที่แสนอันประเสริฐของพี่น้องชาวมุสลิม ในการปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอดที่มีเพียงปีละครั้ง ซึ่งมีความสำคัญต่อพี่น้องมุสลิม เนื่องจากเดือนรอมฏอน เป็นเดือนที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอาน อีกทั้งเป็นเดือนแห่งความเชื่อมั่นที่พี่น้องมุสลิมจะปฏิบัติตามศาสดามูหะมัด อย่างเต็มความสามารถด้วยจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง รวมทั้งไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งต้องห้ามตามบทบัญญัติ โดยการถือศีลอดถือเป็นการฝึกความอดทน อันนำไปสู่ความเข้มแข็ง ทั้งทางร่างกายและจิตใจทำให้ผู้ปฏิบัติได้รับทราบและเข้าถึงสภาพอันแท้จริงของผู้ที่อัตคัด ขัดสน ทำให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและเป็นการขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง อีกทั้งเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันดี และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น และกรรมการอิสลามประจำมัสยิด ให้ร่วมกันดำรงตนอยู่ในคุณธรรม จริยธรรม ตามหลักการศาสนา ตลอดช่วงเดือนรอมฏอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1443 สำหรับอินทผาลัมนั้น ชาวมุสลิมถือว่าเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้มีการบันทึกเกี่ยวกับอินทผาลัมอยู่หลายครั้ง ซึ่งชาวมุสลิมนิยมรับประทานอินทผลัมในช่วงเดือนถือศีลอด หรือ เดือนรอมฏอน เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้บัญญัติไว้ว่าสามารถละศีลอดด้วยการกินอินทผลัมแทนการดื่มน้ำได้เพื่อช่วยลดอาการอ่อนเพลียในช่วงอดอาหารอีกด้วย