สลดดินสไลด์ทับคนงานเสียชีวิตและบาดเจ็บ

เกิดเหตุดินสไลด์ทับคนงานบริเวณไซด์งานก่อสร้างบริเวณสำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก ขณะขุดทำท่อระบายน้ำลึก 3 เมตร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 เม.ย.2565 ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุดินสไลด์ทับคนงานเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 รายที่บริเวณไซด์งานก่อสร้างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สถานีไฟฟ้าแรงสูงพิษณุโลก ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก ไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน พบที่เกิดเหตุกำลังมีการขุดดินเพื่อทำท่อระบายน้ำดินได้สไลด์ลงไปทับคนงานอยู่ 3 คน บางรายถูกดินทับครึ่งตัวต่างมีสภาพอ่อนแรง โดยคนงานที่ได้รับบาดเจ็บไม่มากนักสามารถขึ้นมาได้แล้ว 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงช่วยกันขุดดินและช่วยเหลือนำคนงานส่งให้แพทย์รักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราชจำนวน 3 ราย ทราบชื่อคือ นายสุรินทร์ บัวเผือน อายุ 45 ปี นางบุญชู เรืองเกาะ อายุ 46 ปี และ นายสมพงศ์ เชษวิรุณ อายุ 65 ปี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขุดดินนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาให้ตำรวจและแพทย์ชันสูตรศพ ทราบชื่อคือ นางจะเร อินทภูติ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 2 ต.ไกรกลาง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ตำรวจสอบสวน นางภูศรี นิลคำ อายุ 44 ปี คนงานที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทราบว่า คนงานทั้งหมดมาจาก อ.กงไกรลาส จ.สุโขทัย ทำงานมาแล้ว 7 เดือน ขณะเกิดเหตุกำลังขุดดินลึกลงไปประมาณ 3 เมตร เพื่อปรับดินทำท่อระบายน้ำแบบซีเมนต์ อยู่ ๆ ก็เกิดดินสไลด์ทับร่างตนเองอย่างรวดเร็วเกือบถึงหัวไหล่ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนคนงานจึงนำรถแบคโฮเล็กที่จอดอยู่มาช่วยเหลือเกลี่ยดินออกจากร่างแล้วเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มาถึงก่อนหน้านี้ได้ช่วยตนขึ้นมา ส่วนเพื่อนคนงานหญิงอีก 1 คนอยู่ล่างสุดโชคร้ายเสียชีวิตดังกล่าว ขณะเดียวกันครอบครัวและญาติๆ ทราบข่าวจึงได้เดินทางมาจาก จ.สุโขทัย เมื่อถึงที่เกิดเหตุลูกชายของนางจะเร ผู้เสียชีวิต ถึงกับร้องไห้ฟูมฟายด้วยความโศกเศร้าเสียใจที่แม่ต้องมาประสบอุบัติเหตุขณะกำลังทำงานเช่นนี้


ด้าน นายวีระพงษ์ ใจกล่ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุเมื่อมาถึงก็เห็นคนงาน 3 คน สภาพถูกดินสไลด์ทับร่างตั้งแต่ครึ่งตัวไปจนถึงหัวไหล่ สภาพแต่ละคนกำลังหมดเรี่ยวแรงหายใจรวยริน จึงรีบนำเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือโดยใช้จอบและเสียมค่อย ๆ ขุด ก่อนจะดึงตัวขึ้นมาด้านบนจนปลอดภัยดี แต่มาทราบภายหลังว่ายังมีผู้สูญหายอีกรายที่ยังถูกดินทับร่างอยู่ จึงรีบทำการค้นหาเปิดหน้าดินจนไปพบแขนและช่วงหัวไหล่ แต่จับชีพจรก็พบว่าไม่มีแล้วจึงไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันการณ์เพราะขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตในที่สุด ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่นิติเวช รพ.พุทธชินราช และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี




