“ไก่” เปิดตัวสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 ในนามพรรคก้าวไกล

“ศุภปกรณ์” นักการเมืองหน้าใหม่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เมืองสองแคว เปิดใจอยากให้การเลือกตั้งใสสะอาด เดินสายพบปะชาวบ้าน พบการดำเนินชีวิตยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ขออาสาเข้าไปเป็นผู้แทนฯ ขอโอกาสพัฒนาทุกด้านเพื่อบ้านเกิดเมืองนอน ด้วยสมองสองมือของตนเองในนามพรรคก้าวไกล

นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ หรือ “ไก่” อายุ 42 ปี บุตรชายของ “หมอแก้ว” นายประสงค์ สระคู อดีตรองนายก อบจ.พิษณุโลก ซึ่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสกุลว่า “กิตยาธิคุณ” ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2558 ปัจจุบันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว เปิดเผยว่า ตนเป็นคน อ.นครไทย โดยกำเนิด จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม รุ่น 38, 41 ระดับปริญญาตรีจบเอกนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และเรียนจบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามกำแหง ปัจจุบันเปิดร้านขายของใช้เด็กและสำนักงานบัญชี เหตุที่สนใจเรื่องการเมืองเพราะมี “นายธนาธร รุ่งเรืองกิจ” และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นไอดอล และความเป็นเพื่อนกับ “หมออ๋อง” นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทน จ.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล จึงติดตามการทำงานของหมออ๋อง พบว่าการทำงานการปฏิบัติตนของหมออ๋องไม่ใช่นักการเมือง ที่ตนรู้จัก ไม่ใช่การทำงานของนักการเมืองเก่า ๆ ที่ผ่านมา ก็เลยพูดคุยหมออ๋องจนได้รับการชักชวนให้สมัครไปทางพรรคก้าวไกล จนผ่านการพิจารณาให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.พิษณุโลก ในนามของพรรคก้าวไกล

นายศุภปกรณ์ หรือ “ไก่” กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพื้นที่เขต 5 ของ จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะ อ.นครไทย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่เคยเป็นปัญหาในอดีต ปัจจุบันก็ยังไม่มีการแก้ไขเลย พื้นที่เขต 5 ประกอบด้วย อ.นครไทย อ.ชาติตระการ และ อ.วัดโบสถ์ ปัญหาที่มีช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการแก้ไขเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งน้ำ, ที่ดิน, ราคาเกษตรตกต่ำ, รายได้ และปัญหาหนี้สินครัวเรือน สิ่งที่จะทำให้เขตเราดีขึ้นไม่มีเลย พื้นที่ของเขต 5 จ.พิษณุโลก มีพื้นที่ 10,816 ตารางกิโลเมตร เขต 5 จำนวน 3 อำเภอ มีพื้นที่ 5,312 ตารางกิโลเมตร ก็คือเขต 5 มีพื้นที่ครึ่งหนึ่งของจังหวัด อ.นครไทย เป็นอำเภอที่ใหญ่ของ จ.พิษณุโลก อ.ชาติตระการ เป็นอันดับสอง อ.วัดโบสถ์ เป็นอำเภอที่ดัชนีชี้วัดความเจริญต่ำที่สุดใน 9 อำเภอของจังหวัด ในภาพรวมของประเทศไทยปัญหาหนี้สินครัวเรือนภาคอีสานมีปัญหาเยอะที่สุด คือรายได้น้อยประชาชนยังยากลำบาก ถ้าเปรียบเทียบง่าย ๆ พื้นที่เขต 5 ก็คือภาคอีสานของ จ.พิษณุโลก เป็นพื้นที่ห้ามพัฒนา เป็นพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ

อ.นครไทย ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ อ.ชาติตระการ มีพื้นที่ป่าสงวนฯ 90 เปอร์เซ็นต์ อ.วัดโบสถ์ มีพื้นที่ป่าสงวนฯ 40 เปอร์เซ็นต์ บวกกับดัชนีชี้วัดความเจริญ ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ ทำให้พื้นที่เขต 5 เจริญยากอยู่แล้วด้วยศักยภาพของพื้นที่ ตัวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเขต 5 คือการเกษตร ปัญหาหนี้สินครัวเรือน หนี้แบบวนเวียน บวกกับการมีบุกรุกพื้นที่ป่าอยู่ตลอดเวลา ทำให้อำนาจในทางการปกครองน้อยกว่าสังคมเมือง เพราะพื้นที่ทำกินรุกที่ป่า รัฐก็อนุโลมให้ทำกิน ทำให้มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้เลย เพราะถ้าเราทะเลาะกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่รัฐชาวบ้านอาจถูกกลั่นแกล้งได้ เมื่อไหร่ที่เราทำการเกษตรแล้วประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ เวลาขอเงินเยียวยาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต้องให้การรับรอง เพราะฉะนั้นมันอยู่ในกติกาที่ชนะไม่ได้

นโยบายของพรรคก้าวไกลแต่ละภาคจะไม่เหมือนกันเลยทีเดียว นายศุภปกรณ์ หรือ “ไก่” กล่าวว่า นโยบายหลักพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างก็คือ 1.แก้ปัญหาเรื่องที่ดินที่ใช้ในการเกษตรกรรม ชาวบ้านไม่มีที่ดินเป็นของตนเองเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่อุทยานฯ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ฯ 2.แก้ปัญหาพื้นที่การเกษตรมีปัญหาเรื่องแหล่งน้ำตั้งแต่เมื่อ 20 – 30 ปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้ก็ยังพูดเรื่องแหล่งน้ำกันอยู่ พื้นที่เขตชลประทานมีแผนในการทำชลประทานเข้ามาในพื้นที่เพียง 40% และ 3.ปัญหาหนี้เกษตรกรหนี้สินครัวเรือนของประชาชนในพื้นที่เขต 5 มีปัญหาแทบทุกครัวเรือน ที่ผ่านมาไม่มีนักการเมืองจริงใจในการแก้ไขปัญหา ถ้า “พิธา” ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลได้เป็นผู้นำรัฐบาล ปัญหาที่ดินทั่วประเทศจะได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ถ้าตนได้เป็น ส.ส. สิ่งที่อยากทำคือเรื่องการศึกษา แต่การลงทุนกับคนต้องใช้เงินงบประมาณและเวลาในการจัดการค่อนข้างมาก ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาใช้เวลาเกี่ยวกับเรื่องการศึกษามากกว่า 20 ปี ในขณะที่ประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์ 200 กว่าปีนี้เราเน้นเรื่องการสร้างวัดวาอาราม

ตลอดเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมาตนได้เข้าพื้นที่พูดคุยกับประชาชนทำให้เห็นถึงสภาพปัญหา พร้อมกับมีการบอกให้ประชาชนได้ทราบถึงคุณค่าว่า ประชาชนมีอำนาจในการที่จะเลือกตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชน อยากให้ประชาชนได้มีการเลือกตั้งด้วยความหวังว่า จะได้นักการเมืองที่ให้ความหวังในการที่จะเข้ามาทำงานพัฒนาพื้นที่อย่างจริงใจ ตนไม่อยากให้ประชาชนมีหน้าที่เพียงแค่ การเข้าคูหาไปลงคะแนนเลือกตั้งส.ส. เพื่อใช้สิทธิโดยผ่านกระบวนการการซื้อเสียงขายสิทธิ หากประชาชนมองเห็นว่าผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ไม่เหมาะสม ก็สามารถกาเครื่องหมายลงในช่อง โนโหวต เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการเลือกตั้งได้ ประเด็นหลักในการตัดสินใจเล่นการเมืองของตนก็คือ “พรรคการเมือง พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล เป็นโมเดล ในพรรคมี ส.ส. ที่เป็นเลือดใหม่เป็นความหวังในการพัฒนาประเทศ รูปแบบการทำงานของพรรคการเมือง แตกต่างจากนักการเมืองแบบเก่านักการเมืองใหม่ เป็นความหวังเป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลงความเจริญ จึงสนับสนุนพรรคก้าวไกล ให้เป็นรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศได้ต่อไป

ส่วนคาดหวังว่าจะได้รับการเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.ในสมัยแรกนี้เลยหรือไม่นั้น นายศุภปกรณ์ หรือ “ไก่” กล่าวอย่างคนมองโลกในแง่ดีฝากไปถึงพี่น้องประชาชนในเขต 5 ประกอบด้วย อ.นครไทย อ.ชาติตระการ และ อ.วัดโบสถ์ ทุกท่านทราบว่า “ผมอายุยังน้อย ไม่ได้สู้เพื่อแพ้ แต่ผมจะสู้เพื่อหลังจากนี้จะไม่มีคนซื้อสิทธิขายเสียง ที่ผ่านมาพ่อของตนคือ “หมอแก้ว” เป็นแบบอย่างที่ดี ทำไว้ดีแล้ว แต่ก็ยังมีคนที่ชอบและไม่ชอบ สำหรับเสียงตอบรับจากชาวบ้านในแต่พื้นที่เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยประเมินจากการเดินทางเข้าไปพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบถึงบ้านของชาวบ้านแต่ละ ตนมั่นใจว่า ตนเป็นคนดีจริง ถึงกล้าลงสมัคร ส.ส.เขต 5 จ.พิษณุโลก ในแบบต้นทุนต่ำ เมื่อได้เป็นนักการเมืองก็ทำได้จริงโดยไม่ต้องไปคอยทุจริตคอรัปชั่น