เขื่อนสิริกิติ์ยังสามารถรับน้ำจากพายุได้อีกหลายลูก

สถานการณ์น้ำและการรับมือภัยแล้งของเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 4,725.98 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49.69 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายชาญณรงค์ จันทมงคล ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ (อขส.) เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์น้ำและการรับมือภัยแล้งของเขื่อนสิริกิติ์ ภารกิจกลักของเขื่อนสิริกิติ์ คือ ปล่อยระบายน้ำเพื่อประโยชน์ด้านการเกษตร และผลิตกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 4,725.98 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49.69% น้ำใช้งานได้ 1,875.98 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 28.17% สามารถรับน้ำได้อีก 4,784.02 ล้าน ลบ.ม. จากพายุ “มู่หลาน” แผนการระบายน้ำรายวันในฤดูฝนระหว่างวันที่ 17 – 21 ส.ค. 65 วันละ 4.0 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเขื่อนสิริกิติ์ยังสามารถรับน้ำจากพายุได้อีกหลายลูก ข้อมูลสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในวันที่ 16 สิงหาคม 2565 เวลา 24.00 น.


“ขอให้ประชาชนมั่นใจในความมั่นคงและความปลอดภัยของเขื่อน เนื่องจากมีการตรวจสอบตามมาตรฐานสากลขององค์การเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ (International Committee on Large Dams; ICOLD) ทั้งนี้เขื่อนสิริกิติ์ ได้มีการสื่อสารข้อมูลน้ำให้กับเกษตรกรผู้ใช้น้ำทำนา และผู้เลี้ยงปลาในกระชังทราบ ทางกลุ่ม Line และ Website อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานงานร่วมกับชลประทาน ในการลงพื้นที่ชี้แจงสถานการณ์น้ำ และในส่วนการบริหารจัดการน้ำ เขื่อนสิริกิติ์มีการประสานกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำแห่งชาติ (สทนช.) วิเคราะห์น้ำต้นทุนเพื่อบริหารจัดการในช่วงฤดูแล้ง


โดยจัดลำดับความสำคัญของการใช้น้ำแต่ละกิจกรรมไว้ ได้แก่ การอุปโภค-บริโภค การรักษาระบบนิเวศ การปลูกพืชฤดูแล้ง และภาคอุตสาหกรรมในลำดับสุดท้าย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะไม่มีปัญหาสำหรับเกษตรกรผู้ใช้น้ำในช่วงฤดูแล้ง ท้ายนี้ฝากถึงประชาชนผู้ใช้น้ำให้ติดตามข้อมูลแผนการระบายน้ำ เพื่อวางแผนการใช้น้ำเพื่อการเกษตร และลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกช่วงฤดูแล้งนี้”นายชาญณรงค์ จันทมงคล ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ (อขส.) กล่าว
ข่าว : ประสิทธิ์ ผึ้งสุข




