รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง พร้อมคณะมากำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ผู้ว่าเมืองสองแควเสนอของบประมาณโครงการเขื่อนทดน้ำท้ายเมืองกั้นแม่น้ำน่าน เพื่อแก้ปัญหาน้ำหลากและการขาดแคลนน้ำหน้าแล้ง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2565  นายสุนทร  ชัยยินดีภูมิ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง  พร้อมด้วย นางรุ่งรัตนา  บุญ-หลง ผู้ตรวจราชการเขตตรวจราชการที่ 17 ร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตตรวจราชการที่ 17 ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก, ตาก, เพชรบูรณ์, อุตรดิตถ์ และสุโขทัย ที่ห้องประชุมพระพุทธชินราช (771) ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามงานนโยบายของรัฐบาล และมอบนโยบายในการกำกับและติดตามปฏิบัติราชการในภูมิภาค โดยการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในเรื่องการแก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน อาทิ โครงการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การแก้ไขปัญหาพื้นที่ การบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่สาธารณะ การเตรียมแผนรับมือภัยแล้งและอุทกภัย ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ การบริหารจัดการขยะ สิ่งแวดล้อม และปัญหาหมอกควันเป็นต้น และการแก้ไขปัญหาของจังหวัด ที่ไม่สามารถแก้ไขได้เองในระดับจังหวัด และต้องการความต่างบนจากรัฐบาล

ซึ่งในที่ประชุม นายรณชัย  จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก นายสมชัย  กิจเจริญรุ่งโรจน์  ผวจ.ตาก  นายกฤษณ์  คงเมือง ผวจ.เพชรบูรณ์ นายวิรุฬ  พรรณเทวี ผวจ.สุโขทัย นายผล  ดำธรรม ผวจ.อุตรดิตถ์ ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมนำเสนอของบประมาณตามโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เพื่อนำเสนอต่อ นายดอน  ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีต่อไป โดย นายสุนทร ชัยยินดีภูมิ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า เนื่องจากนายดอน  ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนมารับฟังผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล เน้นย้ำการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนมีกินมีใช้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วนโครงการที่นำเสนอ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ ก็จะนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด จากนั้น นายสุนทร  ชัยยินดีภูมิ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จ.พิษณุโลก ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก

ด้าน นายรณชัย  จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางคณะรองนายกรัฐมนตรีได้มาติดตามการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การจัดการสิ่งแวดล้อมสีเขียวเพื่อความยั่งยืน ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว BCG model   การขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน โครงการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019  การบุกรุกพื้นที่ป่า การเตรียมรับมือภัยแล้งและอุทกภัย ราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ เป็นต้น

ส่วนปัญหาอุปสรรคที่จังหวัดแก้ไขเองได้ ทาง จ.พิษณุโลกได้นำเสนอโครงการเขื่อนท้ายเมือง ที่ ต.งิ้วงาม อ.เมืองพิษณุโลก ถ้ามีจะยกระดับแม่น้ำน่านให้สูงขึ้นในช่วงฤดูแล้ง จะแก้ไขปัญหาเรื่องสถานที่ติดตั้งระบบน้ำประปา และช่วยเรื่องการชะลอน้ำช่วงฤดูน้ำหลากได้ด้วย คาดใช้งบประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท อีกเรื่องเป็นโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำ ชมพู อ.เนินมะปราง ซึ่งทางรัฐบาลสนับสนุนอยู่ แต่ติดปัญหาความไม่เข้าใจของมวลชนในพื้นที่ เราต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะหากมีเขื่อนชมพู จะช่วยเก็บน้ำได้ประมาณ 90 ล้านคิว ในช่วงฤดูน้ำหลาก จะบรรเทาอุทกภัยในเขต อ.เนินมะปราง และ อ.บางกระทุ่ม ได้ด้วย ก็คงต้องมีการขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อเร่งขับเคลื่อน นอกจากนี้สิ่งที่มีในแผนอยู่แล้วคือ อ่างเก็บน้ำบ้านแยงกับห้วยระเบย จะช่วยเก็บน้ำในแม่น้ำวังทอง หรือลำน้ำเข็ก ถ้าสามารถเก็บน้ำไว้ได้ ปริมาณน้ำที่จะไหลหลาก  อ.วังทอง และ อ.บางกระทุ่ม ก็จะลดความเสียหายของพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนราษฎรจากปัญหาน้ำท่วมได้เช่นกัน