งานบุญเดือนสิบปิดทองหลวงพ่อปั้นแข่งขันเรือบกประจำปี 2565

ชาวตำบลเนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม สืบสานประเพณีบุญเดือนสิบปิดทองหลวงพ่อปั้นแข่งขันเรือบกประจำปี 2565 พ่อเมืองสองแควเปิดงานพร้อมโชว์ทอดข้าวเม่าพอกด้วยความคล่องแคล่ว ก่อนซื้อข้าวเม่า 2 แพกลับไปฝากภริยาในราคาสองพันบาท

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดเนินกุ่ม หมู่ 4 ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญเดือนสิบ “ปิดทองหลวงพ่อปั้น แข่งขันเรือบก ลิ้มรสข้าวเม่าทอด” โดยมี นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก และผู้บริหารเทศบาลตำบลเนินกุ่ม กำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านร่วมในพิธี สำหรับงานประเพณีนี้ชาวบ้านเนินกุ่มร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงเทศกาลงานบุญเดือนสิบ หลังจากงดจัดงานไป 2 ปี เพราะโควิด-19 ระบาด สำหรับงานบุญเดือนสิบเป็นการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามไว้ให้คงอยู่สืบไป สร้างความสามัคคีของคนในชุมชนทั้งในระดับหมู่บ้านและตำบล และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท้องเที่ยวและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะการแข่งขันเรือบกที่จัดต่อเนื่องกันมายาวนานกว่าเกือบ 60 ปี ถือเป็นกีฬาพื้นบ้านหนึ่งเดียวของประเทศไทย มีทีมผู้เข้าแข่งขันและกองเชียร์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีร้านค้าขายอาหารหลากหลายให้เลือกซื้อ



การแข่งขันเรือบกนั้น ในอดีตชาวบ้านเนินกุ่มจะแข่งขันเรือพายขนาดเล็ก ซึ่งเป็นเรือชาวบ้าน ในคลองเนินกุ่มที่อยู่ด้านหลังวัดเนินกุ่ม ต่อมาลำคลองเริ่มตื้นเขินไม่สามารถจัดแข่งขันเรือได้ ช่วง พ.ศ. 2500 สมัยพระอาจารย์เฉลียว เจ้าอาวาสในยุคนั้น จึงได้จัดให้มีการแข่งขันเรือบกขึ้นมา เพื่อทดแทนการแข่งขันเรือในน้ำที่ไม่สามารถจัดได้ โดยกำหนดกติกาการแข่งขันเหมือนกับแข่งเรือทุกอย่าง ใช้บริเวณลานวัดเป็นสถานที่แข่งขัน ปล่อยน้ำเข้าไปเพื่อให้เป็นดินเลนที่มีน้ำหล่อเลี้ยงเล็กน้อยเต็มไปด้วยโคลน ส่วนอุปกรณ์หลักคือไม้ยาว 8 ศอก หรือ 4 เมตร ผู้แข่งขัน 9 คน ใช้กติกาเหมือนแข่งเรือในน้ำ ชนะ 2 ใน 3 เที่ยว และถ้าเรือบกลำใดล้มก่อนถือว่าแพ้ในรอบนั้น บรรยากาศการแข่งขันตั้งแต่เช้าวันนี้ เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทางวัดร่วมกับเทศบาลตำบลเนินกุ่มจัดทำสนามแข่งขันระยะทางยาว 100 เมตร ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมวิ่งไม่พร้อมกันก็จะสะดุดขาพากันล้มลุกคลุกคลาน ก่อนจะเข้าเส้นชัย ทีมใดล้มก็จะถือว่าแพ้ทันทีแถมยังเปื้อนโคลนกันไปทั้งตัว โดยมีกองเชียร์ที่นั่งลุ้นยืนลุ้นอยู่สองฝั่งริมขอบสนาม คอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจทีมโปรดของตัวเองอยู่รอบสนาม




นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ไปร่วมงานชมการแข่งขันเรือบกแล้ว ยังได้ร่วมปิดทองหลวงพ่อปั้นด้วย ภาพที่ให้เห็นคุ้นตาสำหรับผู้ที่ไปเที่ยวงานเป็นประจำก็คือ การเข้าแถวรอคิวซื้อข้าวเม่าพอกต้นตำรับของวัดเนินกุ่ม เพื่อนำไปลิ้มรสความอร่อยกัน โดยทางคณะกรรมการวัดได้เตรียมกล้วยไข่นับหลายร้อยกิโลกรัม เพื่อทอดจำหน่ายแพละ 25 บาท แต่ก็ต้องจำกัดจำนวนให้ซื้อคนละ 20 แพเท่านั้น โดยเงินที่ได้จากการจำหน่ายจะนำเข้าวัดเพื่อเก็บไว้ทำนุบำรุงศาสนสถานของวัดเนินกุ่มต่อไป ซึ่งปีนี้ข้าวเม่าพอกขายดีมากตั้งแต่เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยขายได้วันละประมาณ 40,000 บาท ปกติแต่ละปีขายได้เฉลี่ยวันละประมาณ 20,000 บาทเท่านั้น


ภายหลังประกอบพิธีเปิดงานแล้ว นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก ได้โชว์ฝีมือทอดข้าวเม่าพอกหน้าเตาร้อน ๆ อีกด้วย ท่าทางดูดีคล่องตัวมาก ผู้สื่อข่าวได้กระซิบถามว่าท่านว่าการทอดข้าวเม่าสำหรับท่านผู้ว่าฯ นี่ยากมั้ย ท่านผู้ว่าฯ ตอบว่า ไม่ยาก ๆ ปกติอยู่บ้านเมียใช้ประจำ เรียกเสียงหัวเราะภายในเต้นท์การทอดข้าวเม่ากันอย่างเกลียวกราวเลยทีเดียว จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดได้ช่วยอุดหนุนข้าวเม่าพอกไปฝากภริยาที่บ้านจำนวน 2 แพ เป็นเงิน 2,000 บาท แถมพูดขำ ๆ ตบท้ายว่า จะกลับไปเบิกเงินที่คุณนายที่บ้าน