“อนุทิน” ยืนยันใช้กัญชาได้ปกติแม้สภาฯ ไม่รับร่าง กม.กัญชา

รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 2 เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์แก่บุคลากรวิชาชีพต่างๆ เพื่อสามารถส่งต่อข้อมูลสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ในการเข้าถึงบริการกัญชาทางการแพทย์อย่างทั่วถึงและปลอดภัย ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 ก.ย.2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 2 และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สถานการณ์กัญชาทางการแพทย์ ของประเทศไทย ทางเลือกในอนาคต” โดยมี นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และ อาสาสมัครสาธารณสุข กว่า 4,000 คน ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุม ที่ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายอนุทิน กล่าวบนเวทีว่า ทางรัฐบาล ห่วงใยพี่น้อง อสม. ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ให้อีก 500 บาท หลังจากนี้ก็พิจารณาเพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม.ทั่วประเทศ เป็น 2,000 บาท อีกด้วย พร้อมให้ อสม.ส่งกำลังใจให้นายกตู่ ระหว่างพักงานอีกด้วย ขณะที่เรื่องกฎหมายกัญชา ที่มีปัญหาในสภา ขณะนี้ นายอนุทิน กล่าวบนเวที อีกว่า ในสัปดาห์ที่มีพรรคการเมือง 3 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ที่รวมตัวกันไม่เห็นชอบที่จะนำกฎหมายกัญชาออกมาใช้ได้ ซึ่งตนก็คิดว่า เป็นเรื่องของระบบประชาธิปไตย ก็ต้องทำตามในสภา แต่กฎหมายหลักในการปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติดก็ยังอยู่ ประชาชนยังสามารถปลูกกัญชา ผลิตยา อาหาร เครื่องดื่ม จากกัญชา ได้เช่นเดิม



สำหรับเขตสุขภาพที่ 2 ประกอบไปด้วย จ.พิษณุโลก, อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์, สุโขทัย และตาก มีการขับเคลื่อนกัญชาเสรีทางการแพทย์โดยพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขาการให้บริการกัญชาทางการแพทย์ ที่มีการดำเนินงานอย่างครอบคลุม คือ มีแหล่งปลูกกัญชาทุกจังหวัด มีโรงพยาบาลที่ผ่านการประเมินมาตรฐานการผลิตยาจากสมุนไพร (WHO-GMP) 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก โรงพยาบาลบ้านตาก จ.ตาก และโรงพยาบาลพิชัย จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งมีศักยภาพในการผลิตตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมเพื่อใช้ในคลินิกกัญชาทางการแพทย์ เช่น ยาศุขไสยาศน์ ยาแก้ลมแก้เส้น ยาทำลายพระสุเมรุ และน้ำมันกัญชา อาจารย์เดชา เป็นต้น รวมถึงมีการเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการในโรงพยาบาลของเขตสุขภาพที่ 2 ครบทั้ง 47 แห่ง โดยให้ความสำคัญกับการให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาแก่บุคลากรทางการแพทย์ในวิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ แพทย์แผนไทย และส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ความรู้เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แก่ประชาชนทั่วไป ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการให้บริการกัญชาทางการแพทย์ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบันอย่างทั่วถึงและปลอดภัย




กรณีที่สภาฯ ไม่รับพิจารณาร่างกฎหมายกัญชานั้น นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะเห็นได้ว่านโยบายกัญชาของกระทรวงสาธารณสุขก็ยังดำเนินต่อไป เพราะเราใช้กฎหมายกระทรวงสาธารณสุขในการกำกับดูแล การใช้กัญชงกัญชาทางการแพทย์ให้ถูกวิธี ขอยืนยันว่าข้อกังวลต่าง ๆ ในเรื่องที่จะนำกัญชาไปใช้ในการเฮฮาปราตี้ไม่มีอย่างแน่นอน แม้กระทั่งในร่างกฎหมายของพรรคภูมิใจไทยก็ไม่มีเรื่องการนำกัญชาไปใช้ในการบันเทิงหรือสันทนการ ดังนั้นความกังวลที่ว่าเมื่อไม่มีการพิจารณากฎหมายกัญชาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้หมายความว่ากัญชาจะใช้ไม่ได้ เจตนารมณ์ของกระทรวงสาธารณสุขคือการปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด ได้ทำไปเรียบร้อยแล้วกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป เพียงแต่ว่ากฎหมายที่จะนำมาควบคุมยังไม่ได้รับการพิจารณาจากสภาฯ ถึงแม้จะยังไม่ได้รับการพิจารณาจากสภาฯ ก็ใช้กฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขควบคุม ซึ่งไม่เป็นการลิดรอนสิทธิใด ๆ ของชาวบ้าน ไม่เป็นการก่อให้เกิดการใช้อย่างเสรีในทางที่ไม่ถูกต้อง ทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิมจนกว่าสภาฯ จะพิจารณาร่างกฎหมายที่เราเตรียมไว้อย่างพร้อมแล้ว ในสมัยประชุมสภาฯ ครั้งต่อไป ประมาณเดือน พ.ย.หรือ ธ.ค.นี้ ถ้าไม่พิจารณาอีกก็ไม่เป็นไร เพราะเรากฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขมีอยู่ และกัญชาก็ไม่ได้เป็นยาเสพติดอีกต่อไป เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจประเด็นด้วยไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อการใช้กัญชา