สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลกหนุนขนมโบราณ “ไส้ไก่เจ้าไก่แก้ว” ของดีของบ้านหัวแท ต.บ้านกร่าง ผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน ผลิตภัณฑ์รีไซเคิล บายศรี และไก่ชนพันธุ์เหลืองหางขาวบ้านหัวแท ให้เป็นของฝากเมืองสองแคว พร้อมเตรียมส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกหนึ่งแห่ง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์เรียนรู้บ้านหัวแท หมู่ 8 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นางศศิวัณย์  ศรีพรหม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก และนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางสาวญาติกา  แก้วบริสุทธิ์ ผอ.ททท สนง.พิษณุโลก อบต.บ้านกร่าง ปราชญ์ชาวบ้าน และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านหัวแท ได้จัดเสวนาเตรียมความพร้อมเพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งทองเที่ยวสำคัญอีกหนึ่งแห่งของจังหวัด พร้อมนำแม่บ้านมาสาธิตการทำขนมมงคลโบราณ “ไส้ไก่เจ้าไก่แก้ว” ขนมพื้นบ้านที่สืบสานมาหลายชั่วอายุคน และผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน ผลิตภัณฑ์จะการรีไซเคิล บายศรี รวมทั้งไก่ชนพันธุ์เหลืองหางขาวของบ้านหัวแท เพื่อผลักดันให้เป็นของดีชุมชนและของฝากจังหวัดพิษณุโลก และดึงนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่กระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ให้กับชาวบ้าน ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นางศศิวัณย์  ศรีพรหม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนและสมาชิกเครือข่ายต่างเล็งเห็นจุดแข็งของตำบลบ้านกร่าง ซึ่งสามารถที่จะส่งเสริมได้และมีประโยชน์ต่อชุมชน วันนี้จึงลงมาเพื่อส่งเสริมเรื่องของการท่องเที่ยวของ ต.บ้านกร่าง ที่มีทั้งหมด 12 หมู่บ้าน ให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเชิงประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะบ้านหัวแท มีประวัติที่ยาวนานตั้งแต่เมื่อครั้งองค์สมเด็จพระนเรศวรเมื่อมีพระชนม์มายุ 8 พรรษา ได้เสด็จมายังบ้านหัวแทแห่งนี้ และชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรสมัยทรงพระเยาว์มือขวาอุ้มไก่ชนคู่กาย นามว่าเจ้าไก่แก้ว ที่ไก่ชนพันธุ์ของบ้านหัวแท ดังนั้นชาวบ้านหัวแทจึงนำชื่อเจ้าไก่แก้วไปใส่ไว้ในชื่อขนมพื้นถิ่น นั่นคือ “ขนมไส้ไก่เจ้าไก่แก้ว” เพื่อไว้น้อมรำลึกถึงว่า บ้านหัวแทมีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ

ด้าน น.ส.ญาติกา  แก้วบริสุทธิ์ ผอ.ททท สนง.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ทาง ททท.ได้เข้ามาดูพื้นที่บ้านหัวแท และเห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญได้ เพราะในพื้นที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ของสมเด็จพระนเรศวรเมื่อยังเยาว์วัยและยังมีอัตลักษณ์เป็นต้นกำเนิดของไก่เหลืองหางขาวที่คู่วรกายสมเด็จพระนเรศวรรวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารของดีของชุมชนต่างๆ ทาง ททท.จึงจะเข้ามาพัฒนาของดีของชุมชนตรงนี้ให้เป็นที่รู้จักแก่บุคคลภายนอกและผลักดันให้เป็นของฝากและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัดพิษณุโลกต่อไป

น.ส.จรัญรัตน์  จรัญกุลรัตน์ อายุ46 ปี สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านหัวแท เปิดเผยว่า ขนมไส้ไก่เจ้าไก่แก้ว เป็นขนมมงคล ขนมโบราณ สืบสานกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด เจ้าไก่แก้ว เป็นไก่คู่กายของพระนเรศวร และพระนเรศวรได้เดินทางมาเพื่อเอาไก่จากบ้านหัวแทไปพม่า คนบ้านหัวแทตั้งแต่ดั้งเดิม จึงได้ทำขนมไส้ไก่และนำชื่อของเจ้าไก่แก้ว มาใช้เป็นชื่อขนมด้วย ในงานบุญงานมงคลต่างๆ ชาวบ้านจะทำขนมนี้มาร่วมงานบุญและยังเป็นของฝากของบ้านหัวแทให้กับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนด้วย สำหรับขั้นตอนการทำจะใช้ถั่วเหลืองไปคั่วให้หอมจากนั้นนำไปนึ่ง แล้วนำมาบดผสมกับข้าวตอก พร้อมกับเติมน้ำตาลมะพร้าวไปด้วย ซึ่งน้ำตาลมะพร้าวนั้นจะเคี่ยวกับหัวกะทิ จากนั้นก็เคล้ารวมกันกับถั่วและข้าวตอกที่ผสมไว้ให้เข้ากัน นำมาปั้นเป็นเส้นคล้ายไส้ไก่ จากนั้นไปชุมแป้งสาลีผสมไข่แล้วนำลงไปทอดในน้ำมันด้วยไฟกลางจนเหลือง ก็สามารถทานได้ รสชาติจะกลมกล่อมจากรสถั่วหอมกะทิ หวานพอดีไม่มากจนเกินไป เหมาะสำหรับทานเล่น หรือเป็นของฝากเป็นอย่างดี สำหรับใครที่สนใจอยากจะสั่งขนมไส้ไก่เจ้าไก่แจ้ ขนมมงคลโบราณของบ้านหัวแท ก็สามารถสั่งได้ ราคาชุดละ 50 บาท ติดต่อได้ทางเพจ : บ้านหัวแท หรือโทรสั่งได้ทางหมายเลข 095 – 3568964