พ่อเมืองสองแควคนใหม่ติดตามสถานการณ์น้ำที่เขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม ที่รับน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์หลังมีข่าวแพร่สะพัดเรื่องบานประตูชำรุด 1 บาน ยืนยันเขื่อนยังปลอดภัยบริหารจัดการน้ำที่ยังไหลมาเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่องได้ มั่นใจไม่ส่งกระทบเขตเทศบาลนครพิษณุโลก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2565 นายภูสิต  สมจิตต์ ผวจ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นายชำนาญ  ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก ได้เดินทางไปตรวจสอบและตรวจสถานการณ์ที่เขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จากกรณีประตูระบายน้ำของเขื่อนนเรศวรหลุดจากสลิงตกลงไปใต้น้ำ 1 บาน จากทั้งหมด 5 บาน ร่วมกับ นายภูวดล  คำพุฒ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานเรศวร พบว่าประตูระบายน้ำที่ชำรุดของเขื่อนนเรศวรบานนั้น เป็นบานประตูที่ 3 ซึ่งหลุดจากสลิงตกลงไปอยู่ใต้น้ำ นายชำนาญ ผอ.โครงการชลประทาน จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ไม่ส่งผลกระทบกับการบริหารจัดการน้ำของแม่น้ำน่าน เพราะยังมีประตูที่ใช้ได้อีก 4 บาน จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมในวันนี้ ส่วนโครงสร้างของเขื่อนนเรศวรก็มั่นคงแข็งแรง ปริมาณน้ำที่ปล่อยออกสู่แม่น้ำน่านจากเขื่อนนเรศวรปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลให้ช่วงนี้น้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านเมืองพิษณุโลกจะมีระดับสูงขึ้นอีก ณ เวลานี้ที่สถานีวัดน้ำ N5A เชิงสะพานเอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก วัดระดับน้ำได้ 8 เมตรแล้ว และคาดการณ์ว่าเย็นวันนี้ถึงค่ำระดับน้ำอาจจะถึงระดับ 9 เมตร จากจุดวิกฤติ 10.37 เมตร เนื่องจากน้ำสูงสุดจาก อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ กำลังไหลลงมาสู่เขื่อนนเรศวร แต่ไม่ส่งผลกระทบกับแม่น้ำน่านล้นตลิ่งในเขตเมืองพิษณุโลก และไม่ส่งผลกระทบกับการบริหารน้ำโดยเขื่อนนเรศวร เพราะ เขื่อนนเรศวรมีขีดความสามารถรับน้ำได้ถึง 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ด้าน นายภูสิต  สมจิตต์ ผวจ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า จากการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนนเรศวรซึ่งเป็นเขื่อนที่รับน้ำจากแม่น้ำน่านหลัก ๆ ซึ่งขณะนี้ทางเขื่อนสิริกิติ์ได้หยุดการระบายน้ำออกเหลือเพียงเก็บน้ำอย่างเดียว และความจุในเขื่อนสิริกิติ์ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บไว้ 67 เปอร์เซ็นต์ ของความจุเขื่อน ฉะนั้นยังสามารถรองรับน้ำได้อีกเยอะ แต่ปริมาณน้ำใต้เขื่อนเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะ ปริมาณน้ำไหลผ่านในลำน้ำน่านที่เป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ประมาณ 1,017 คิว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องเผชิญของเขื่อนนเรศวรคือการรับน้ำ 1,017 คิวนี้ สำหรับเขื่อนนเรศวรสามารถรองรับน้ำได้ 1,600 คิว เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการใน 5 ประตู ของเขื่อนนเรศวรสามารถจะบริหารจัดการน้ำระบายน้ำ สามารถจะคอนโทรลน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อด้านใต้คือตัวเมืองพิษณุโลกได้

ส่วนกรณีปรากฏข่าวในโซเชียลมีเดียว่าบานประตูระบายน้ำ สลิงขาดทำให้บานประตูหล่นลงไปใต้น้ำ ประกอบกับในช่วงเช้าวันนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ประชาชนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำนั้น วันนี้จึงลงพื้นที่เพื่อประชุมร่วมกับกรมชลประทานที่ 3 ผู้อำนวยการเขื่อนนเรศวร ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมแผนรับมือ แต่ผลสรุปจากการประชุม คือเขื่อนนเรศวรมีบานประตูสำหรับระบายน้ำทั้งหมด 5 บาน ซึ่งมวลน้ำสูงสุดของเรามาที่ 900 คิวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเรารอรับ 1,017 คิวที่จะมาถึง ซึ่งคาดว่าจะมาถึงเราในช่วงเย็นหรือค่ำ ๆ ของวันนี้ เพราะฉะนั้นในส่วนของบานประตูน้ำที่ยังใช้การได้อีก 4 บาน เรายังสามารถที่จะคอนโทรลน้ำได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อด้านท้ายเขื่อนหรือตัวเมืองพิษณุโลก และได้ทำการประสานกับทางเทศบาลนครพิษณุโลกให้ทราบว่า บานประตู 4 บานของเขื่อนนเรศวรยังสามารถคอนโทรลน้ำคำนวณกับบานประตูที่ชำรุด อัตราการปล่อยน้ำลงไปยังไงก็ไม่ให้เกิน 1,000 คิว อย่างแน่นอน

นายภูสิต  สมจิตต์ ผวจ.พิษณุโลก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับผู้อำนวยการเขื่อนนเรศวรในการซ่อมบานประตูที่ชำรุด โดยการใช้ตัว Stop lock กั้นและทำการสูบน้ำออกและทำการซ่อมบานประตูที่ชำรุด คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน ก็แล้วเสร็จ ส่วนเรื่องของรอยร้าวต่าง ๆ ของเขื่อน จากการตรวจสอบยืนยันว่าไม่กระทบต่อตัวโครงสร้างของเขื่อนฯ แน่นอน เป็นแค่ปูนที่กะเทาะภายนอกของตัวเขื่อน ถ้าสถานการณ์น้ำเข้าสู่สภาวะปกติก็จะดำเนินการซ่อมแซมให้ปกติตามเดิม ส่วนเรื่องปริมาณน้ำที่ตัวเมืองพิษณุโลกขณะนี้สูงถึง 9 เมตรนั้น ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล ทุกฝ่ายจะชะลอน้ำคอนโทรลน้ำไม่ให้กระทบต่อตัวเมืองพิษณุโลกแน่นอน เราจะพยายามไม่ให้เกิน 9 เมตร แต่หากเกินควบคุมจริงๆ เราจะทำการบล็อคน้ำที่ 2 ลำน้ำ คือ ลำน้ำยมกับลำน้ำแควน้อย เพราะฉะนั้นเราจะสกัดน้ำไว้ได้อีกส่วนหนึ่งให้จราจรน้ำที่ผ่านลำน้ำน่านอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจว่าทางเขื่อนนเรศวรยังสามารถคอนโทรลน้ำ โดยเฉพาะมวลน้ำที่กำลังเดินทางเข้ามาอีกได้อย่างแน่นอน