สาวใหญ่เสียชีวิตปริศนาขึ้นอืดอยู่ในตู้แช่แข็ง

แม่หายตัวออกจากบ้าน 5 วัน ลูกชายถึงกับผงะแทบล้มทั้งยืนพบศพแม่ในตู้แช่แข็งที่เคยใช้แช่ไก่หน้าบ้าน มีเทปกาวปิดปากพันรอบศีรษะ ติดใจสงสัยว่าแม่อาจจะถูกฆาตกรรมอำพราง เผยกู้เงินนอกระบบมายังใช้ไม่หมดถูกโทรข่มขู่ทวงหนี้หลายครั้ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พ.ย.2565 ร.ต.อ.สงวน พ่วงพลอย รอง สว.(สอบสวน) สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุพบศพผู้เสียชีวิตในตู้แช่แข็งที่ชุมชนวัดปากสระพัฒนา บ้านเลขที่ 129 หมู่ที่ 3 บ้านวัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ ร.ต.อ.วรุต จี่มุก นวท.สบ 1 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวร รพ.วัดโบสถ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หน้าบ้านมีร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอยู่ในตู้แช่แข็งที่เคยใช้แช่ไก่ปัจจุบันไม่ได้เสียบปลั๊กไฟไว้ ขนาดความกว้างยาวประมาณ 1 เมตร สูง 70 ซม. สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งมีเทปกาวพันปากและศีรษะอยู่

ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำร่างออกมาชันสูตร ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางจันทิรา แก้วป้องปก อายุ 58 ปี ชื่อเล่น “เจี๊ยบ” สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทา คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราช ตำรวจสอบสวน นายอัครพล สุวรรณพฤกษ์ อายุ 33 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิต ทราบว่า แม่ของตนเองมีอาการป่วยทางจิตเวชต้องกินยาอยู่เป็นประจำ และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เมื่อก่อนขายไก่ทอดอยู่ภายในหมู่บ้าน แต่พอป่วยก็ให้อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำงานอะไร มีพ่อและตนเองหาเลี้ยงดู ก่อนหน้านี้แม่มักจะชอบหนีออกจากบ้านหายตัวไปบ่อย ๆ แต่ก็ตามหาจนเจอตัว


นายอัครพล ให้การต่อว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา พ่อกับแม่มีปากเสียงทะเลาะกันแต่ก็ไม่รุนแรงอะไร จนวันที่ 15 พ.ย. แม่ก็หายตัวออกไปจากบ้านโดยทิ้งจดหมายไว้ถึงพ่อ ระบุข้อความว่า ขอโทษที่เป็นเมียที่ดีไม่ได้ต้องให้สามีตามใช้หนี้ให้ จะขอไปกรุงเทพฯ สามีจะได้สบายใจ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่แม่ไปกู้ยืมเงินนอกระบบ และถูกแก๊งเงินกู้โทรขู่โทรตามทวงหนี้จนทำให้เกิดความเครียดสะสม กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนเองกำลังจะไปทำงานได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากตู้แช่ไก่ จึงเปิดออกดูก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะพบศพของแม่สภาพขึ้นอืดนอนเสียชีวิตอยู่ มิหนำซ้ำยังมีเทปกาวปิดปากและพันรอบศีรษะอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง เพราะจากสภาพศพที่พบนั้นมีเทปกาวปิดปากและพันรอบศีรษะ อาจเป็นไปได้ว่าถูกฆาตกรรรมอำพรางหรือไม่ ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจทางนิติเวชอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนได้ให้ความสำคัญกับคดีนี้เป็นพิเศษ เพราะยังไม่ทราบชัดเจนว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดกันแน่ ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในหลายๆ จุด และไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งการฆ่าตัวตายเอง หรือจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง พร้อมสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีเก็บหลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุอย่างรอบคอบ รวมถึงจะเชิญตัวบุคคลในครอบครัวเพื่อขอเก็บดีเอ็นเอใช้เป็นหลักฐาน และเพื่อนบ้านข้างเคียงไปสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด จึงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานก่อนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ ส่วนศพหลังจากส่งผ่าพิสูจน์ที่นิติเวชเรียบร้อยแล้ว จะให้ญาติ ๆ รับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป