น้องคลั่งเหตุติดสุราฟาดพี่ชายพิการดับใช้ไม้เท้าตีหัวแม่เจ็บ

หนุ่มใหญ่ติดสุราหนักชาวบ้านได้ยินเสียงโวยวายกลางดึก เช้ามาใช้ถังสีเปล่าฟาดหน้าพี่ชายที่พิการตกโต๊ะนั่งเล่นเสียชีวิต แม่ต่อว่าทำร้ายพี่ชายทำไมคว้าไม้เท้าของแม่ตีกระหน่ำที่หัวจนแม่บาดเจ็บ ตำรวจสอบปากคำยังให้การคลุมเครือ เพื่อนบ้านเผยชอบทำร้ายพี่ชายเป็นประจำข่มขู่เอาเงินคนแก่ของแม่กับเงินผู้พิการของพี่ชายไปซื้อเหล้ากิน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 มกราคม 2566 ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายและมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 122/18 หมู่ที่ 7 บ้านสระโคล่ ต.หัวรอ ไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน พบเป็นบ้านพักชั้นเดียว มีร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายอยู่ข้างโต๊ะนั่งเล่นขนาดใหญ่ ทราบชื่อคือ นายสายันท์ ศรีสว่าง อายุ 54 ปี เป็นผู้พิการทางสมองแขนและขาอ่อนแรง สภาพศพมีรอยฟกช้ำที่ใบหน้า ในที่เกิดเหตุยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งให้แพทย์ทำการรักษาที่ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ทราบชื่อคือ นางบุญชื่น ศรีสว่าง อายุ 82 ปี เป็นเจ้าของบ้านและแม่ของผู้เสียชีวิตรวมทั้งผู้ก่อเหตุ มีบาดแผลบวมปูดที่หน้าผากและท้ายทอย ส่วนผู้ก่อเหตุถูกตำรวจประจำหน่วยบริการประชาชนตำบลหัวรอควบคุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายอัคฤทธิ์ ศรีสว่าง อายุ 44 ปี เป็นน้องชายของผู้เสียชีวิต

ตำรวจสอบสวน นายอัคฤทธิ์ หรือหยิก ผู้ก่อเหตุให้การว่า ตนมีปากเสียงกับนายสายันท์ หรือเดือน พี่ชายที่พิการเนื่องจากตกนั่งร้านขณะทำงานก่อสร้าง บอกให้กินยาก็ไม่กินจะไปหา นางพัฒน์ธนาฒย์ ธนภาศรีสว่าง อายุ 51 ปี พี่สาวของตนอย่างเดียว เลยใช้ถังสีเปล่าฟาดไปที่หน้า 1 ครั้งจนพี่ชายตกจากโต๊ะ ส่วนแม่ก็ต่อว่าตนที่ตีพี่ชาย ตนโมโหเลยใช้ไม้เท้าของแม่ตีไปที่ศีรษะจนแม่บาดเจ็บ ตอนแรกพี่ชายที่นอนอยู่กับพื้นบ่นว่าหนาว ก่อนจะแน่นิ่งไป เบื้องต้นตำรวจพยายามสอบถามนายอัคฤทธิ์เพิ่มเติมก็เริ่มให้การวกวนเนื่องจากเป็นคนติดสุราเรื้อรัง และยังพูดกับตำรวจว่า “ถ้าตนเข้าคุกแล้วจะไปกินเหล้าที่ไหนได้ ส่วนแม่ก็ต้องเหงาอยู่บ้านเพียงคนเดียว” ทำเอาชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ถึงกับทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของการติดเหล้าของนายอัคฤทธิ์ พากันต่อว่าต่าง ๆ นานา บางคนถึงกับสาปแช่งนายอัคฤทธิ์ที่ก่อเหตุสลดในครั้งนี้ ตำรวจจึงควบคุมตัวนายอัคฤทธิ์ไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมเพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ด้าน นางสาวสำเนียง เอี่ยมยิ้ม อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านผู้แจ้งเหตุทางศูนย์วิทยุ 191 เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุงานการไม่ค่อยทำ ติดสุราอย่างหนัก เมาแล้วก็ชอบอาละวาด มักให้พี่สาวที่คอยแวะเวียนมาดูแม่กับพี่ชายไปซื้อสุราให้กินเป็นประจำ ชาวบ้านมักจะคอยเอาอาหารมาแบ่งปันให้ผู้เสียชีวิตเพราะพิการ รวมทั้งแม่ที่ชราภาพแล้ว ช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.30 น. พ่อของตนบอกได้ยินเสียงนางบุญชื่นร้องขอความช่วยเหลือ และให้ตนไปดูก็พบว่า นายเดือนยังนอนสั่นเทาหายใจรวยรินอยู่กับพื้น และนางบุญชื่นนอนเหยียดยาวอยู่บนโต๊ะเอามือกุมหัวอยู่ ตนยังถามนายหยิกว่าทำไมทำกับพี่ชายกับแม่อย่างนี้ จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งเหตุให้ตำรวจทราบทาง 191 กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจสายตรวจมาถึงที่เกิดเหตุ




