ชาวบ้านจัดพิธีบวงสรวงช่วยกันนำตะเคียนขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี ที่โค่นจมอยู่ในลำน้ำเข็กนำขึ้นไปไว้ที่วัด หลังชาวบ้านแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าแม่ตะเคียนเข้าฝันบอกว่าอยากขึ้นมาจากน้ำ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมตลิ่งลำน้ำเข็ก ใกล้กับสะพานข้ามลำน้ำเข็ก เหนือน้ำตกปอย หมู่ 1 บ้านน้ำปอย ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ. พิษณุโลก ชาวบ้านและผู้นำชุมชนได้ร่วมกันพากันไปทำพิธีอัญเชิญต้นตะเคียนขึ้นจากลำน้ำเข็ก หลังจากที่เมื่อปี 2565 ได้มีฝนตกหนักทำให้ลำน้ำเข็กที่ไหลผ่านน้ำตกปอยมีปริมาณน้ำมากและเชี่ยวกรากเมื่อชนกับตอม่อสะพานทำให้น้ำหมุนเข้าไปเซาะดินริมตลิ่ง บริเวณต้นตะเคียนพังทลายทำให้ต้นตะเคียนต้นนี้ที่มีอายุกว่า 100 ปี โค่นลงจมอยู่ในลำน้ำเข็กมานานเกือบปี และเจ้าแม่ตะเคียนไปเข้าฝันชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงว่าอยากจะขึ้นจากน้ำมาก ชาวบ้านจึงร่วมใจกันจัดพิธีบวงสรวงเพื่อนำต้นตะเคียนขึ้นจากลำน้ำปอยตามความเชื่อของทุกคน

นายสมศักดิ์  พงษ์ยศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านปอย ตำบลแก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลกกล่าวว่า ต้นตะเคียนต้นนี้ได้อยู่บริเวณนี้นานนับร้อยปีแล้ว ตั้งแต่ปู่ย่าตายายอพยพมาจาก จ.เลย เมื่อ 200 ปีก่อน  แต่เมื่อปี 2565 เกิดน้ำหลากต้นตะเคียนต้นนี้ได้โค่นลงไปในลำน้ำเข็ก และจมอยู่ในนั้นนานร่วมปีแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีเจ้าแม่ตะเคียนเข้าฝันชาวบ้านว่า ท่านหนาวมากอยากขึ้นจากน้ำ จึงได้ถือฤกษ์มาทำพิธีบวงสรวงนำขึ้นจากน้ำขึ้นมาตั้งเย็นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยลำต้นขนาดใหญ่มาก ไม่สามารถยกขึ้นมาทั้งต้นได้ ต้องตัดเป็นท่อน ๆ เป็นท่อนใหญ่ 4 ท่อน เมื่อวานนี้ได้ลำเลียงต้นตะเคียนไปไว้ที่วัดปอยศรัทธารามเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือโคนต้นขนาดใหญ่อีก 1 ท่อน จึงได้มาดำเนินการเคลื่อนย้ายต่อในวันนี้ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก อบต.แก่งโสภา กองพันทหารช่างที่ 302 กรมทหารช่างที่ 3 และ เจ้าหน้าที่ อป.นำรถขนาดใหญ่มาช่วยกันยกขึ้น และทาง อบต.แก่งโสภา นำรถน้ำมาฉีดล้างต้นตะเคียนให้สะอาดด้วย

สำหรับบรรยากาศในการยกต้นตะเคียนขึ้นจากน้ำไปยังวัดปอยศรัทธารามวันที่สอง ชาวบ้านก็ยังมาลุ้นการดำเนินการอย่างใกล้ชิด และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ไม่พลาด ต่างนำแผงมาให้ชาวบ้านได้เลือกเสี่ยงดวง โดยเฉพาะเลข 480 ซึ่งเป็นขนาดของลำต้นที่วัดได้ 4 เมตร 80 เซนติเมตร รวมทั้งเลข 20 ซึ่งเป็นวันแรกที่นำต้นตะเคียนขึ้น นอกจากนี้ยังมีร่างทรงมาสวดมนต์เพื่อให้การขนย้ายต้นตะเคียนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ตลอดเวลาที่มีการดำเนินยกตะเคียนท่อนสุดท้ายที่เป็นโคนต้น ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้ปรึกษากับชาวบ้านแล้วจะตั้งชื่อต้นตะเคียนที่นำขึ้นมาว่า “แม่ตะเคียนสร้อยแก้ว” และเชื่อว่าเจ้าแม่ตะเคียนจะให้โชคให้ลาภเช่นเดิมเหมือนกับตอนที่ยังตั้งต้นอยู่ก่อนที่โค่นลงไปในลำน้ำเข็ก