กองทุนอิสระ สวัสดีการสงเคราะห์สัจจะออมทรัพย์เพื่อสวัสดิการสังคมอุตรดิตถ์ ภายใต้มูลนิธิมุจลินท์นาคราช นัดเจรจาเพื่อแก้ไขหนี้แบบปลอดดอกเบี้ยให้ข้าราชการครูบำนาญ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องประชุมเหล็กน้ำพี้ 1 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์  นายวิสิษฐ์   อรุณเพ็ง ประธานอนุกรรมการ  กองทุนอิสระ สวัสดีการสงเคราะห์สัจจะออมทรัพย์เพื่อสวัสดิการสังคมจังหวัดอุตรดิตถ์ ภายใต้มูลนิธิมุจลินท์นาคราช  พร้อมด้วย นายสงกรานต์  รสหวาน   ทนายมูลนิธิมุจลินท์นาคราชพร้อมคณะขอนัดเจรจาเพื่อแก้ไขหนี้แบบปลอดดอกเบี้ยให้ข้าราชการครูบำนาญ โดยมีนายสุริยะ  อยู่สืบ กรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ และ สมาชิกฯ กว่า 50 คน ร่วมรับฟังรายละเอียด จากสมาชิกฯทั้งหมด จำนวน 115 คน

นายวิสิษฐ์   อรุณเพ็ง ประธานอนุกรรมการ กองทุนอิสระฯ  กล่าวว่า  สำหรับกองทุนอิสระ สวัสดีการสงเคราะห์สัจจะออมทรัพย์เพื่อสวัสดิการสังคมอุตรดิตถ์ ภายใต้มูลนิธิมุจลินท์นาคราช มีโครงการหลายโครงการ หนึ่ง ในโครงการนั้น คือโครงการแก้ไข้หนี้สินให้กับบุคคลากรต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะข้าราชการครู แต่เป้าหมายหลักๆ ก็จะเป็นข้าราชการครูบำนาญที่เป็นสมาชิกกองทุนอิสระฯ แต่จะต้อง สมัครเสียแรกเข้า 500 บาท และค่าบำรุงอีก 2,000 บาทต่อปี เมื่อทางทางมูลนิธิฯมีการแก้ไขหนี้แบบปลอดดอกเบี้ย สมาชิกต้องฝากเงินสัจจะออมทรัพย์ เดือนละ 3,600 บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี หากเมื่อครบกำหนดตามสัญญา ทางมูลนิธิฯ  จะคืนเงินให้ทายาทสมาชิกองทุนอิสระฯเท่านั้น จำนวน เงิน  432,000  บาท 

นายสงกรานต์  รสหวาน   ทนายความมูลนิธิมุจลินท์นาคราช กล่าวว่า วัตถุประสงค์ ของมูลนิธิฯ จะช่วยเหลือแก้ไข้หนี้สินข้าราชครูบำนาญ ส่วนใหญ่ที่เกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งสอนหนังสือมาทั้งชีวิตแล้วครูเหล่านี้ต้องมาลำบากคอยมาใช้หนี้สินอีก  ทางมูลนิธิฯ จึงได้มีโครงการนี้มาช่วยเหลือข้าราชการครุบำนาญ แบบปลอดดอกเบี้ย  ส่วนเงื่อนไข้นั้น ครูต้องสมัครเป็นสมาชิก กองทุนอิสระฯ ทางเราจะช่วยดูแลในด้านกฎหมายเรื่องต่างๆ แต่ต้องมาฝากออมทรัพย์สัจจะต่อเดือนๆละ 3,600 บาท เมื่อครบสัญญา 10 ปี ก็จะคืนเงินเหล่านั้นให้ นอกจากนั้นก็จะหารายได้ให้ครู เช่น เลี้ยงปลา เลี้ยง ไก่ ปลูกผัก เป็นต้น เพราะทางเรามาช่วยครูจริงๆ ไม่ได้มาหลอก จะเน้นเรื่องช่วยเหลือหนี้สินที่วิกฤต เช่น กำลังถูกยึดบ้าน  ถูกยึดที่ดิน หรือรถ เป็นอันดับต้นๆ มูลนิธิมุจลินท์นาคราช ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบได้ เพราะมีทั้งทางเว็บไซต์ YouTube. และออกตามสื่อต่าง ๆ รวมทั้ง Facebook

ส่วนเรื่องที่มาของเงินของมูลนิธิฯ นั้น จะได้มาจากมีผู้บริจาคเงินมาให้ก้อนหนึ่ง ก็เหมือนกับมูลนิธิฯอื่น ๆ ที่รับเงินบริจาค เช่นกัน เพื่อช่วยเหลือสังคม และทางมูลนิธิก็จะต้องถูกตรวจสอบที่มาของเส้นทางการเงิน จากกระทรวงการคลัง ตรวจสอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย และตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก ในเรื่องพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อีกด้วย

ข่าว  :  ประสิทธิ์  ผึ้งสุข

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า