เอาใจสายแซ่บ พาไปชิมเมนูฤดูร้อน ทั้งไข่มดแดง ผักหวาน ที่พลาดไม่ได้ส้มตำ ยำเด็ด ๆ อีกกว่า 200 เมนู ที่ร้านเจ๊เก๋ ตำซ่า ตำแซ่บ ร้านส้มตำยืนหนึ่ง จุดเช็คอินขึ้นชื่อของคนพิษณุโลก เพลิดเพลินตากับลีลาแม่ครัวที่ตำสนั่นพร้อมกัน 9 ครก ลูกค้าทั่วสารทิศสำรองโต๊ะแวะอุดหนุนไม่ขาดสาย

วันที่ 8 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวพาไปลุยครัว ชิมเมนูส้มตำ ยำแซ่บ ๆ ของร้านเจ๊เก๋ ตำซ่า ตำแซ่บ ร้านส้มตำยืนหนึ่ง จุดเช็คอินขึ้นชื่อของคนพิษณุโลก ตั้งอยู่เลขที่ 69/5 หมู่ที่ 4 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ของ นางสาวณิชาภา  ทองคำพงษ์ อายุ 42 ปี ซึ่งเริ่มต้นจากร้านส้มตำเล็ก ๆ ที่เกือบจะไปไม่รอดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่เจ้าตัวฮึดสู้อดทนจนถึงวันนี้ จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ลูกค้าแน่นขนัด ถึงกับต้องจับบัตรคิว เพื่อจองโต๊ะรอชิมเมนูแซ่บ โดยลูกค้ามาจากทั่วสารทิศ ดาราดัง ๆ แห่มาชิม เช็คอินไม่ขาดสาย กลายเป็นที่รู้จักภายในระยะเวลาไม่นาน คุ้มค่ากับการตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาจับครกจับสากสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว กระทั่ง 2 ปีที่ผ่านมา นายปัญญาวุฒิ  อิ้มอนงค์ อายุ 48 ปี คู่ชีวิตที่ทำงานบริษัทเอกชนตัดสินใจลาออกมาช่วยสร้างกิจการที่ถือได้ว่ารุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์โควิด – 19 แพร่ระบาด

นางสาวณิชาภา  เจ้าของร้านเจ๊เก๋ ตำซ่า ตำแซ่บ เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่งครูสอนเคมี เป็นคนมีเพื่อนเยอะ แล้วชอบทำอาหารโดยเฉพาะส้มตำ และยำต่าง ๆ เวลาเพื่อนมาทานที่บ้านทีไรก็บอกว่าอร่อยเหมือนร้านอื่นที่ทำขายเลย และอร่อยกว่าบางร้านซะอีก เพื่อน ๆ ยุให้เปิดร้านขาย มีการทักและบอกกล่าวบ่อย ๆ ด้วยความที่เราก็มีครอบครัวอยากมีรายได้มากกว่างานประจำที่ทำอยู่ เพื่อจะได้มีรายได้ไว้ดูแลครอบครัว ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำ ใช้เงินเก็บที่พอมีออกมาหาเช่าที่ ลงทุนซื้อของมาทำขาย ตอนเริ่มต้นใหม่ ๆ เงินเก็บที่มีอยู่ถึงกับติดลบต้องหยิบยืมทางบ้านมาใช้จ่าย ตนคิดค้นน้ำปลาร้าสูตรพิเศษที่รับรองว่านัวร์ไม่เหมือนใคร ทำเป็นธุรกิจในครอบครัวเล็ก ๆ ด้วย จึงนำมาเป็นเครื่องปรุงส้มตำและยำต่าง ๆ ตอนเริ่มแรกท้อมาก ๆ เพราะว่าร้านยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ คนเงียบมาก เงินจ่ายพนักงานก็แทบไม่มี แต่ด้วยความที่เราถอยไม่ได้แล้วจึงพยายามฮึดสู้ อดทน ช่วงเวลา 6 เดือนแรกถือว่าชีวิตยากลำบากมาก กระทั่งค่อย ๆ ดีขึ้นและผ่านมาถึงจุดนี้ได้ เพราะเราตั้งใจทำทุกเมนูให้ดีที่สุด

ตอนผ่านพ้น 1 ปี ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ลูกค้าที่เคยมาทาน กลับมาอีก ปากต่อปากบอกต่อ ๆ กัน เราเองก็เน้นมาตรฐานรสชาติให้เหมือนเดิม ร้านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนกระทั่งปี 2563 เกิดมรสุมอีกครั้งด้วยโรคโควิด-19 ตอนนั้น ร้านอาหารถูกสั่งปิดห้ามนั่งทานในร้าน เราก็หาทางออกให้พนักงานวิ่งส่ง ใช้บริการเดลิเวอรี่เข้ามาช่วย จนรอดพ้นวิกฤติครั้งนั้นไปได้ พอทุกอย่างกลับเข้าที่ปี 2565 ร้านเริ่มดีขึ้นมาก ๆ ลูกค้าเริ่มเข้ามาต่อเนื่องเราขยายร้านเพิ่มจำนวนโต๊ะ รับพนักงานเพิ่ม สามีลาออกจากบริษัทเอกชนมาช่วยกัน จนถึงปัจจุบันร้านเปิดมา 5 ปี มีโต๊ะ 80 โต๊ะ วางระบบการบริหารจัดการในร้านให้สะดวกและรวดเร็วให้ลูกค้าไม่ต้องรอนาน อย่างเช่นเมนูส้มตำ มี 9 ครก เมนูทอด มี 9 กระทะ และในร้านจะแยกเป็นสัดส่วนมีครัวส้มตำ ยำ ทอด ลาบ แกง ต้ม เมนูอาหารจานเดียว รวมๆ แล้วใช้พนักงาน 50 คน จดทะเบียนเป็นบริษัทฯ พนักงานมีประกันสังคม ดูแลทุกคนเหมือนคนในครอบครัว

เมนูซิกเนเจอร์ขึ้นชื่อของร้านจะเป็นเมนูส้มตำ ยำต่างๆ เมนูอาหารตามฤดูกาล ช่วงนี้ที่ขายดีจะเป็นเมนูกุ้งเต้นตัวโต ๆ แซ่บ ยำไข่มดแดง ลาบไข่มดแดง แกงผักหวานไข่มดแดง หอยขมลวกจิ้ม เป็นเมนูฤดูร้อนที่ได้รับการตอบรับดีมาก นอกจากนี้ยังมีเมนู เนื้อร่องโครงโพนย่างคำ เนื้อนุ่ม มันติด เป็ดอบโอ่ง หอยขมลวกจิ้ม น้ำจิ้มซีฟู๊ดปลาร้า กับไม่ปลาร้า คอย่าง ไส้ย่าง ต้มแซบหม้อไฟเนื้อ ใช้เอ็นแก้วเนื้อวัว ผสมกับเนื้อตุ๋น มีแยกขม กุ้งฝอยทอดตัวโตๆ กับน้ำจิ้ม 3 รส และเมนูอื่นอีกหลายกว่า 200 เมนู วัตถุที่นำมาปรุงเราคัดสรร วัตถุดิบสดสะอาดใหม่ ทั้งกุ้ง หอย ปูปลา อาหารทะเลทุกชนิด ที่สำคัญราคาไม่แพงเมนูส้มตำเริ่มต้นที่ 50 บาท เท่านั้น ที่สำคัญถึงแม้ว่าลูกค้าจะดูเยอะเต็มร้าน จนต้องมีการจับบัตรคิวนั้น ทางร้านยืนยันและมั่นใจในการจัดการระบบของทางร้าน รับรองว่ารอไม่นานอย่างที่คิดแน่นอน

สำหรับใครที่อยากจะมาชิมเมนูแซ่บๆ ของทางร้าน สามารถเดินทางมาได้ร้านเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด วันธรรมดาเปิด 10.00-17.00 น. วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เปิด 10.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ทางเพจ Facebook : ร้านเจ๊เก๋ตำซ่าตำแซ่บ หรือโทร 091-8379919 ลูกค้าสามารถสำรองโต๊ะล่วงหน้าได้สำหรับวันจันทร์-วันศุกร์