นำร่องติดตั้งหอฟอกอากาศ แก้ปัญหา PM2.5 ที่แรกในพิษณุโลก

เทศบาลนครพิษณุโลก ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร และภาคเอกชน ทดลองติดตั้งหอฟอกอากาศเครื่องแรกของจังหวัดพิษณุโลกเพื่อทดลองแก้ปัญหา PM 2.5 ใน 2 จุดหลักคือ หน้าโรงพยาบาลพุทธชินราช และ ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 มีนาคม 2566 ที่หน้าโรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อม ผศ.พิสิฐ มณีโชติ อาจารย์คณะวิทยาลัยพลังงาน มหาวิทยาลัยนเรศวร และ นายเอกสิทธิ์ วันสม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโซล่าเวย์ จำกัด ตรวจสอบการติดตั้งหอฟอกอากาศอัจฉริยะ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และระบบควบคุมดูแลผ่านเทคโนโลยีไฮโอที เพื่อการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ซึ่งเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศมากกว่าร้อยละ 90 และอัตราการฟอกอากาศ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และส่งเสริมให้เทศบาลนครพิษณุโลกเป็นเมืองสะอาด เป็นนครแห่งความสุข พร้อมก้าวสู่เมือง Smart City อีกทางหนึ่ง


นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า เทศบาลนครพิษณุโลกได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยนเรศวรและภาคเอกชน ในการร่วมแก้ไขปัญหา ฝุ่น PM 2.5 โดยการติดตั้งติดตั้งหอฟอกอากาศอัจฉริยะ บริเวณศาลาที่พักผู้โดยสาร 2 แห่ง ได้แก่ ศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลพุทธชินราช และศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณต้นหลังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดใหญ่) เพื่อเป็นการฟอกอากาศ ให้กับผู้รอรถโดยสาร และกินบริเวณพื้นที่ กว่า 100 ตารางเมตร ซึ่งในช่วงนี้พื้นที่ของเทศบาลนครพิษณุโลก มีปัญหาเกี่ยวกับ PM2.5 เนื่องจากเมืองค่อนข้างเป็นแอ่งกระทะ ทำให้เกิด PM2.5 ปริมาณค่อนข้างมาก หากหอดังกล่าวทำงานได้ดี ก็จะมีการพัฒนาเป็นรถโมบายวิ่งไปตามจุดต่างๆเพื่อช่วยฟอกอากาศให้กับเมืองพิษณุโลก


ด้าน นายเอกสิทธิ์ วันสม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโซล่าเวย์ จำกัด กล่าวว่า หอฟอกอากาศอัจฉริยะ ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส) พัฒนาหอฟอกอากาศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร และเทศบาลนครพิษณุโลก เป็นพื้นที่นำร่อง ซึ่งหอฟอกอากาสเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ มากกว่าร้อยละ 90 และอัตราการฟอกอากาศ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที จึงได้นำผลงานการวิจัยเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ที่ทำงานด้วยระบบม่านน้ำและเทคนิคเสริมอีก 3 อย่าง ทำการประดิษฐ์และนำมาติดตั้งไว้ทั้ง 2 จุด มีทั้งการดูดอากาศเสียเข้าไปฟอก แล้วปล่อยอากาศดีออกมา มีเครื่องวัดค่าของอากาศทั้งสองทางแบบเรียลไทม์ โดยจะเปิดช่วงที่มีการจราจรแออัด มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนน๊อคไซด์สูง เป็นการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่มานั่งรอรถโดยสารครั้งละนาน ๆ นับชั่วโมง ให้สามารถสูดเอาอากาศดีเข้าไปในปอดแทนอากาศเสีย หากได้ผลจะขยายเป็นระบบฟอกอากาศติดรถโมบาย ตรงไหนมีปัญหาจะไปฟอกอากาศทันที