“จเด็ศ  จันทรา” ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย พิษณุโลก เขต 3 วังทอง เนินมะปราง ร้อง กกต.ตรวจการออกเสียงลงคะแนนและขอให้มีการนับคะแนนใหม่ หลังพบความผิดปกติของเอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกือบ 40 หน่วย จาก 266 หน่วยเลือกตั้ง และขอให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ใน 9 หน่วยเลือกตั้ง ที่คาดว่าอาจมีบัตรเขย่ง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 พ.ค.2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดพิษณุโลก ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก  นายจเด็ศ  จันทรา ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 พิษณุโลก พร้อมทนายความ ได้นำเอกสารเข้าร้องเรียน กับ กกต. เพื่อขอให้มีการตรวจสอบการออกเสียงลงคะแนน และตรวจสอบการนับคะแนนใหม่  หลังจากพบความผิดปกติ ของหน่วยเลือกตั้ง ทั้งหมดเกือบ 40 หน่วยเลือกตั้ง จาก 266 หน่วยเลือกตั้ง และขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่ 9 หน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากหน่วยดังกล่าวอาจมีบัตรเขย่ง โดยมี น.ส.ภาพิตร  ละอองเดช รองผู้อำนวยการ สนง.กกต.จ.พิษณุโลก และ นายธีรพงษ์  ฟองจางวาง หัวหน้าสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง สนง.กกต.จ.พิษณุโลก รับเรื่องร้องเรียนไว้ ก่อนให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขึ้นไปทำหนังสือร้องเรียนที่ชั้น 3 ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง เพื่อนำข้อร้องเรียนเสนอ กกต.จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพิจารณาตามลำดับชั้นต่อไป

นายจเด็ศ  จันทรา เปิดเผยว่า สาเหตุที่เดินทามาร้องเรียนกับทาง กกต.ในครั้งนี้ เรื่องแรกเนื่องจากเกิดเหตุความผิดปกติในการรับคะแนนตามที่ปรากฏในข่าว ว่ามีคนมาใช้สิทธิ์เกินจำนวน 131 %  เรื่องที่ 2. มีประชาชนมาแจ้งว่าในวันที่มีการเลือกตั้งประชาชนเข้าไปขอถ่ายรูปถ่ายวีดีโอที่หน่วยเลือกตั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งแจ้งว่าไม่สามารถถ่ายรูปใด ๆได้ เนื่องจากจากเราต้องการเพียงเข้าไปตรวจสอบการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ กกต.ว่านับคะแนนเป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่ โดยอยู่นอกหน่วยไม่ได้เข้าไปวุ่นวายภายในหน่วยแต่อย่างใด เรื่องที่ 3 สังเกตเห็นความผิดปกติของหน่วยเลือกตั้งสูงถึง 40 หน่วย จาก 266 หน่วย ซึ่งมีจำนวนประมาณ 9 หน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาเรื่องบัตรเขย่ง  ในวันนี้จึงได้เตรียมหลักฐานเป็นเอกสารเรื่องเกี่ยวกับความผิดปกติมายื่นให้กับทาง กกต.พิษณุโลก ว่ามีเหตุที่เราเชื่อว่าน่าจะเข้าข่ายบัตรเขย่ง เพื่อฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ กกต.ช่วยตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดบัตรเขย่งหรือไม่

ส่วนเรื่องอื่น ๆ เป็นเรื่องของความผิดปกติที่เราพบ ซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือร้องเรียนแล้ว และเรื่องสุดท้ายคือพบว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง ปล่อยให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุม Primary vote โดยหลังจากที่มีการโหวตเรียบร้อยแล้ว ค่อยไปลาออกจากพรรคเก่าในวันรุ่งขึ้น ซึ่งผมต้องข้อสงสัยว่า Primary vote นี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่เห็นชอบด้วยกฎหมาย หัวหน้าพรรคและกรรมการพรรคจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้เท่าที่ดูโทษอาจถึงขั้นตัดสิทธิ์ 5 ปี สำหรับการมาร้องเรียน ให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องบัตรเขย่งนั้น ถ้าเป็นไปตามการร้องเรียน หากพบว่าเข้าข่ายเป็นบัตรเขย่งจริง  ก็อยากเรียกร้องขอให้ทาง กกต. ดำเนินการนับคะแนนใหม่ หรือ ทำการเลือกตั้งใหม่ ในหน่วยเลือกตั้งทั้ง 9 หน่วยเลือกตั้งที่ผิดปกติด้วย

ด้าน น.ส.ภาพิตร  ละอองเดช รองผู้อำนวยการ สนง.กกต.จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากเรารับเรื่องจากผู้สมัครแล้ว จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามข้อเท็จจริง ตามคำร้องคัดค้านที่ได้ยื่นเข้ามา โดยในวันนี้ทางงานสืบสวนสอบสวน จะทำเรื่องรับเรื่องร้องคัดค้านให้กับทางผู้ร้อง ส่วนข้อเท็จจริงว่าจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่หรือมีการนับคะแนนใหม่ เป็นเรื่องที่เราจะต้องสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นตามระเบียบ แล้วก็ทำเรื่องส่งไปให้ทาง กกต.กลาง ตรวจสอบ ก่อนวินิจฉัยสั่งการลงมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนานพอสมควร  อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องของผู้ร้องดังกล่าวได้ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ และขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ในบางหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งการ กกต.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามระเบียบอย่างละเอียดต่อไป

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วย อำเภอวังทองทั้งหมด 11 ตำบล และ อำเภอเนินมะปรางทั้งหมด 7 ตำบล เขตเลือกตั้งนี้ นายพงษ์มนู ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ อดีต รองนายก อบจ.พิษณุโลก เข้ามาเป็นลำดับ 1 ด้วยคะแนน 22,765 คะแนน ชนะ นายจเด็ศ จันทรา พรรคเพื่อไทย ที่ได้ 21,969 คะแนน คะแนนห่างกันเพียง 796 คะแนน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า